GBX มองQ2 ราคาทองเข้าช่วงโลว์ซีซั่น แนะลงทุนอย่างระมัดระวัง“ขึ้นขายลงซื้อ”
โกลเบล็ก เตือนลงทุนทองคำอย่างระมัดระวัง ระบุราคาอาจแกว่งตัวในกรอบแคบตลอดไตรมาส2นี้ เหตุเป็นช่วงโลว์ ซีซั่น แนะเล่นตามกรอบ1,080-1,170 เหรียญต่อออนซ์ หรือประมาณ 16,550-17,900 บาท/บาททอง แบบ”ขึ้นขายลงซื้อ”
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัท โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด(มหาชน)หรือGBX เปิดเผยถึงแนวโน้มทิศทางราคาทองคำในไตรมาส2/2553ว่า แนวโน้มราคาทองคำในไตรมาส2(เม.ย.-มิ.ย.)โดยปกติจะเป็นช่วง Low Season ของDemand Jewelry(สัดส่วนประมาณ 50% ของความต้องการทองคำรวม)ทั้งนี้หากพิจารณาจากผลตอบแทนเฉลี่ยรายไตรมาสย้อนหลังไป 10 ปี จะพบว่า ช่วงไตรมาส 2 ถือเป็นช่วงเวลาที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยต่ำสุดเพียง 1.44% ต่อไตรมาส เทียบกับไตรมาส 1 ที่ 2.91% ต่อไตรมาส , ไตรมาส 3 ที่ 4.57% ต่อไตรมาส และไตรมาส 4 ที่ 5.29% ต่อไตรมาส โดยผลตอบแทนสูงสุดที่ทำได้อยู่ในระดับต่ำเพียงแค่ 5.04% ต่อไตรมาส ซึ่งเกิดขึ้นในปี 2549 ต่างจากไตรมาสอื่นที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดเฉลี่ยเกิน 10.00%
ดังนั้น ทางกลยุทธ์จึงมองว่าทิศทางราคาทองคำในไตรมาส2จะเคลื่อนไหวเป็นลักษณะ Sideway ในกรอบ 1,080-1,170 เหรียญต่อออนซ์ หรือประมาณ 16,550-17,900 บาท/บาททอง จึงแนะนำ “ขึ้นขายลงซื้อ”ในทางกลับกัน ระยะสั้น อาจจะมีข่าวดีเข้าหนุนจากเทศกาลแต่งงานของชาวอินเดียในช่วงกลางเดือน เ.ม.ย. ถึงกลางเดือน พ.ค. ที่อาจทำให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นในระยะสั้น
“ ไตรมาส 2 ของปีนี้ ที่ยังไม่มี Story เชิงบวกใหม่ๆเข้ามาฉุดให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นแรง ก็เป็นไปได้สูงที่ Upside การปรับขึ้นของราคาทองคำจะเป็นไปอย่างจำกัดเช่นเดียวกับทุกปี และถ้าหากพิจารณาร่วมกับปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคาทองคำก็ถือว่าค่อนข้างสอดคล้องกัน เพราะราคายังถูกกดดันจากการอ่อนค่าลงของเงินสกุลยูโร ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากปัญหาหนี้สินล้นระบบและความไม่สมดุลด้านการคลังของประเทศสมาชิกแถบยูโรโซนที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างรีบเร่ง ประกอบกับข้อมูลเศรษฐกิจที่ประกาศในช่วงหลังชี้ว่า การฟื้นตัวของยูโรโซนยังดูล่าช้ากว่าสหรัฐฯ (GDP ไตรมาส 4/2552 ของสหรัฐฯอยู่ที่ 5.6% QoQ และมีอัตราเงินเฟ้อเดือน ก.พ. 53 อยู่ที่ 2.1% ส่วนยูโรโซนมี GDP ไตรมาส 4/2552 อยู่ที่ 0.0% QoQ และมีอัตราเงินเฟ้อเดือน ก.พ. 53 อยู่ที่ 0.9%)”นายณัฐพล กล่าว
นอกจากนี้ นายณัฐพล ยังได้ประมาณการณ์ภาพรวมการลงทุนทั้งปีว่า ในปีนี้โอกาสที่ราคาทองคำจะพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้ง (ปีที่แล้วทำสถิติสูงสุดที่1,226 เหรียญต่อออนซ์) เนื่องจากแรงหนุนสำคัญคือ ความกังวลในประเด็นอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มพุ่งขึ้นทั่วโลก รวมถึงผลการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างมหาศาลของรัฐบาลหลายประเทศ
ดังนั้นสำหรับกลยุทธ์การลงทุนระยะยาว ทางโกลเบล็ก แนะนำให้ซื้อแบบทยอยซื้อ เมื่อราคาปรับตัวลง และไปทำกำไรในช่วงที่ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นช่วง High Season ในไตรมาส 4 โดยให้คาดกรอบทั้งปีที่ 1,030-1,250 เหรียญต่อออนซ์ หรือประมาณ 15,800-19,200 บาท/บาททอง