Earth Hour 2010 กทม. ตั้งเป้าลดปริมาณไฟฟ้าให้ได้ 2,000 เมกกะวัตต์

Earth Hour 2010 กทม. ตั้งเป้าลดปริมาณไฟฟ้าให้ได้ 2,000 เมกกะวัตต์
 
          “Earth Hour 2010” ร่วมปิดไฟ 1 ชั่วโมง ให้โลกพัก ในปี 53 นี้ กทม.จัดที่ลานอเนกประสงค์ เซ็นทรัลเวิลด์ 27 มี.ค. 53 เวลา 20.30-21.30 น. พร้อมกัน กับจังหวัดนนทบุรี เชียงใหม่ ขอนแก่น และภูเก็ต และทั่วโลก โดยกทม. ตั้งเป้าลดปริมาณไฟฟ้าให้ได้ 2,000 เมกกะวัตต์

          นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงข่าวการจัดกิจกรรม “Earth Hour 2010” ร่วมปิดไฟ 1 ชั่วโมง ให้โลกพัก ซึ่งกทม. ร่วมกับ WWF ประเทศไทย หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ร่วมกันจัดขึ้นเพื่อรณรงค์เชิญชวนประชาชนร่วมกันปิดไฟที่ไม่จำเป็นเป็นเวลา 1 ชั่วโมง เพื่อช่วยประหยัดพลังงาน รวมถึงการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นสาเหตุของการเกิดภาวะโลกร้อน

          กทม. จัดกิจกรรม Earth Hour 2010 ร่วมกับเมืองต่างๆ ทั่วโลกมาอย่างต่อเนื่อง โดยปีที่ผ่านมา 2552 ร่วมกับ 84 ประเทศ 4,000 เมืองทั่วโลกจัดกิจกรรมรณรงค์ปิดไฟ 1 ชั่วโมงให้โลกพัก สามารถลดการใช้ไฟฟ้าได้ 1,423 เมกะวัตต์ สามารถลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 897 ตัน และค่าไฟฟ้าลดลง 4.31 ล้านบาท ในปีนี้ 2553 กทม. ได้ขยายความร่วมมือไปยังเมืองต่างจังหวัด ได้แก่ นนทบุรี เชียงใหม่ ขอนแก่น และภูเก็ต ในการจัดกิจกรรมรณรงค์ อีกทั้งได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และองค์กรต่างๆ โดยในปีนี้ กทม. จัดที่ลานอเนกประสงค์ เซ็นทรัลเวิลด์ มีกิจกรรมการสัมมนา นิทรรศการภาพถ่าย การจัด Green Course การเปิดให้ประชาชน 8,300 คน ร่วมลงนามผ่านเว็บไซต์ MSM.com, Greenwave, Sanook.com, Pantip.com เพื่อร่วมแสดงถึงความตั้งใจในการทำความดี ด้วยการปิดไฟ 1 ชั่วโมง ในวันที่ 27 มี.ค. 53 เวลา 20.30-21.30 น. พร้อมกันทั่วโลก โดยกทม. ตั้งเป้าลดปริมาณไฟฟ้าให้ได้ 2,000 เมกกะวัตต์

          สำหรับจังหวัดนนทบุรีจัดที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และศาลากลางจังหวัด จังหวัดเชียงใหม่ จัดที่ดอยสุเทพ วัดพระสิงห์ อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ และประตูท่าแพ จังหวัดขอนแก่น จัดที่ประตูเมือง และจังหวัดภูเก็ต จัดที่ ถ.หาดป่าตอง นอกจากนั้นยังเชิญชวนประชาชน หน่วยงานทุกส่วน และจังหวัดทุกจังหวัดร่วมกันปิดไฟหลอดที่ไม่ใช้ในวันที่ 27 มี.ค. 53 เวลา 20.30-21.30 น.และในทุกๆ วัน เพื่อช่วยลดภาวะโลกร้อน

ซีพี ออลล์ ร่วมกับ WWF และกทม. รณรงค์ “ปิดไฟ 1 ชั่วโมงให้โลกพัก”

 

          นายบัญญัติ  คำนูณวัฒน์ (ขวาสุด) ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น ร้านอิ่มสะดวกของคนไทย ร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวกิจกรรม “Earth Hour 2010” เพื่อรณรงค์สร้างจิตสำนึกในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการปิดไฟหน้าร้านทุกแห่งในกทม. ในวันที่ 27 มีนาคม 2553 เวลา 20.30-21.30 น. จัดโดย WWF และกรุงเทพมหานคร โดยมี นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ (ที่ 3 จากซ้าย) รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในงาน ณ เซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อเร็วๆ นี้

ทรู คอร์ปอเรชั่น ร่วมมือกับ กทม.และ WWF รณรงค์ลดภาวะโลกร้อนกับโครงการ Earth Hour ทั่วโลก-ทั่วกทม. 27 มีนาคมนี้ 20.30-21.30 น.



          รุ่งฟ้า เกียรติพจน์ ผู้อำนวยการด้านบริหารแบรนด์และการสื่อสารการตลาด (ที่ 3 จากขวา) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมสนับสนุนโครงการ เอิร์ธ อาวร์ (Earth Hour) ปิดไฟให้โลกพัก เพื่อรณรงค์ลดภาวะโลกร้อน ซึ่งจะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 27 มีนาคมนี้ เวลา 20.30-21.00 น. จัดโดยการนำของกทม.และ World Wildlife Fund (WWF) ประเทศไทย โดยมี พรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กลาง) และ ตรีรัช ภูคชสารศีล (ซ้ายสุด) ตัวแทนจาก WWF พร้อม นาตาลี เกลโบวา (ที่2 จากขวา) และบีม-กวี ตันจรารักษ์ (ที่4 จากซ้าย) 2 พรีเซนเตอร์ของโครงการ ร่วมงานแถลงข่าว ณ ชั้น 3 โซนอีเดน ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อวันก่อน

ปตท.ร่วมสนับสนุนกิจกรรมปิดไฟ 1 ชั่วโมง ลดโลกร้อน



          นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สื่อสารองค์กร และกิจการเพื่อสังคม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ที่ 2 จากขวา) ได้ร่วมงานแถลงข่าวในฐานะผู้สนับสนุนหลักกิจกรรม “Earth Hour 2010” ที่กรุงเทพมหานคร และ WWF ประเทศไทย ได้ร่วมกันจัดงานปิดไฟ 1 ชั่วโมง ลดโลกร้อน โดยจะรณรงค์ปิดไฟร่วมกัน ในวันที่ 27 มีนาคม 2553 เป็นเวลา 1 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 20.30-21.30น. ทั้งนี้ในส่วนของ ปตท.จะร่วมกิจกรรมโดยจะปิดไฟที่อาคารสำนักงาน และลดการใช้ไฟที่สถานีบริการน้ำมัน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยภาวะโลกร้อนด้วย

ดั๊บเบิ้ล เอ สนับสนุนโครงการ Earth Hour 2010 ปิดไฟ ลดโลกร้อน
 


         เมื่อเร็วๆนี้ นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ ในฐานะผู้นำกระดาษแก้โลกร้อน เข้าร่วมสนับสนุนโครงการ Earth Hour 2010 โดยมีนายตรีรัช ภูคชสารศีล ผู้อำนวยการฝ่ายงานอนุรักษ์ WWF ประเทศไทยและอดีตมิสยูนิเวอร์ส นาตาลี เกลโบว่า เชิญชวนให้ประชาชนคนไทยร่วมรณรงค์ปิดไฟพร้อมกันกับเมืองต่างๆทั่วโลก ในวันเสาร์ที่ 27 มีนาคม 2553 เป็นเวลา 1 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 20.30-21.30 น. รวมทั้งดั๊บเบิ้ล เอ ก็ได้รณรงค์ให้ธุรกิจเครือข่ายดั๊บเบิ้ล เอ พนักงานและสำนักงานของดั๊บเบิ้ล เอ ทุกสาขาทั่วโลกที่มีอยู่ 18 สาขาร่วมกันปิดไฟพร้อมกัน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดการใช้พลังงาน และลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้กับชั้นบรรยากาศ

“บีม-กวี” นำทีม “ซี-ควินท์” รณรงค์ “Earth Hour 2010”



          กรุงเทพมหานคร ร่วมกับ World Wildlife Fund (WWF) จัดงานแถลงข่าว “ปิดไฟ 1 ช.ม ลดโลกร้อน 2553” ( Earth Hour 2009) โดย บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ได้จัดส่งศิลปินชื่อดังเข้าร่วมงาน ได้แก่ “บีม-กวี ตันจรารักษ์” และ 3 หนุ่ม “พิชญ์-โยชิ-แบงค์” จาก ซี-ควินท์ เข้าร่วมงานแถลงข่าวในครั้งนี้ด้วย โดยในงานได้รับเกียรติจาก ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัฒน์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธาน ซึ่งจัดขึ้น ณ ศูนย์สรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โซนอีเดน ชั้น 3

          ทั้งนี้ในฐานะของ ทูต WWF ประเทศไทย “บีม-กวี” กล่าวว่า “ ผมเข้าร่วมโครงการ “Earth Hour” ปิดไฟใน 1 ชั่วโมงทั่วโลก สำหรับปีนี้ เป็นปีที่ 3 แล้วครับ ถือว่าเป็นโปรเจ็คท์ใหญ่ระดับโลกที่ผมเข้ามามีส่วนร่วมในฐานะที่เป็นทูตของ WWF ประเทศไทย ในปีนี้จะมีประชาชนกว่า 4,000 ประเทศ ให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมที่จะสร้างปรากฏการณ์การลดใช้พลังงาน ซึ่งนับเป็นสิ่งที่ดีมากที่ทุกคนให้การตื่นตัว และตระหนักถึงคุณค่าของทรัพยากร ผมอยากให้ทุกคนร่วมกันลดโลกร้อนด้วยการไตร่ตรองทุกครั้งก่อนจะใช้พลังงาน เพื่อโลกที่น่าอยู่ขึ้นครับ”

กรุงเทพมหานคร กับ WWF Thailand จับมือแคนนอนจัดการประกวดภาพถ่าย “Earth Hour 2010 Photo Contest”
 
          โครงการประกวดภาพถ่าย “ปิดไฟ...ให้โลกพัก หรือ Earth Hour 2010 Photo Contest” สนับสนุนการประกวดโดย บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด

          ขอเชิญช่างภาพทั้งมืออาชีพ มือสมัครเล่น บุคคลทั่วไป และนิสิต นักศึกษา ไม่จำกัดสัญชาติ อายุ และเพศ ร่วมส่งผลงานภาพถ่ายเข้าประกวด ในหัวข้อ “ปิดไฟ...ให้โลกพัก หรือ Earth Hour 2010 Photo Contest” โดยใช้ภาพถ่ายบอกเล่าแนวความคิดเกี่ยวกับการรวมพลังช่วยกันปิดไฟให้โลกพัก พร้อมกับเมืองใหญ่กว่า 4,000 เมืองใหญ่ทั่วโลก โดยผ่านจุดที่ใช้เป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทย (Landmark) อาทิเช่น วัดอรุณ, วัดสุทัศน์ บริเวณหน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร และ Landmark ของจังหวัดอื่นที่เข้าร่วมในโครงการ ปิดไฟ...ให้โลกพัก ภาพที่ส่งเข้าประกวดจะต้องเป็นภาพก่อนและหลังการปิดไฟ บริเวณLandmark ที่เข้าร่วมโครงการ

          สามารถส่งผลงานเข้าร่วมการประกวดได้ไม่เกิน 3 ชุดต่อคน ผู้ชนะการประกวดจะได้รับเกียรติบัตรจากผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และรางวัลกล้องถ่ายภาพจาก Canon มูลค่ารวมกว่า 90,000 บาท ที่สำคัญผลงานของผู้ชนะการประกวด 3 ลำดับแรก จะถูกนำไปจัดแสดงนิทรรศการภาพถ่าย “Shots on Climate Change, Thailand 2010” พร้อมกับผลงานช่างภาพที่มีชื่อเสียงในหลายจังหวัดทั่วประเทศไทย อาทิเช่น เชียงใหม่, ภูเก็ต, ขอนแก่น เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้เกิดจิตสำนึกในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และเข้าใจถึงปัญหาของภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นที่ประเทศไทย เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาดังกล่าว ที่พวกเราคนไทยทุกคนสามารถช่วยกันทำได้

          คุณสมบัติผู้ส่งผลงานเข้าประกวด และรายละเอียดการส่งผลงาน
          1. ผลงานที่ส่งเข้าประกวดเป็นภาพสี หรือภาพขาวดำ ขนาด 12*18 นิ้ว ถ่ายด้วยกล้องฟิล์ม หรือกล้องดิจิตอล ระบุชื่อ ที่อยู่ และหมายเลขภาพที่ด้านหลัง พร้อมทั้งอธิบายแนวคิดของการถ่ายภาพ (ไม่เกิน 5 บรรทัด) ทั้งนี้ผู้ส่งผลงานเข้าประกวดจากการถ่ายด้วยกล้องฟิล์ม จะต้องแนบสำเนาสไลด์หรือฟิล์ม 35 มม. และในกรณีที่ถ่ายด้วยกล้องดิจิตอล ผู้ส่งผลงานเข้าร่วมประกวด จะต้องส่งภาพถ่ายพร้อมแนบไฟล์โดยบันทึกใส่ CD เป็นไฟล์ TIFF ที่มีขนาดของภาพไม่ต่ำกว่า 8 ล้านพิกเซล และมีความละเอียด อย่างน้อย 300 dpi
          2. ภาพที่ใช้ในการส่งเข้าประกวดจะต้องเป็นภาพที่ถ่ายในเมืองไทยเท่านั้น และไม่เคยรับรางวัลจากการประกวดใดๆ มาก่อน โดยผู้เข้าร่วมประกวดสามารถใช้เทคนิค ตกแต่งแก้ไขเพื่อให้ภาพมีคุณภาพดีขึ้น แต่ทั้งนี้ภาพถ่ายจะต้องดูเป็นธรรมชาติเหมือนถ่ายภาพปกติ ไม่ผิดไปจากความเป็นจริง
          3. ไม่จำกัดสัญชาติ และเชื้อชาติของผู้ส่งผลงานเข้าประกวด
          4. ผู้ส่งภาพเข้าประกวดจะต้องถ่ายภาพด้วยตนเองห้ามมิให้นำผลงานผู้อื่นส่งเข้าประกวด หรือแอบอ้างชื่อผู้อื่นส่งในการส่งเข้าประกวด ผู้เข้าร่วมประกวด 1 ท่านสามารถส่งผลงานเข้าประกวดได้ไม่เกิน 3 ชุด โดย 1 ชุด ประกอบด้วย 2 ภาพ คือ 1.ภาพก่อนปิดไฟ 2. ภาพหลังปิดไฟ ในสถานที่ และมุมเดียวกัน

          เงื่อนไขในการเข้าร่วมการประกวด
          1. ผู้ส่งผลงานเข้าร่วมประกวดจะต้องกรอกเอกสารในใบสมัครให้ชัดเจน
          2. ผู้เข้าร่วมการแข่งขันต้องยอมรับในกฎของการประกวดและคำตัดสินของคณะกรรมการและผู้จัดการประกวด
          3. ผู้ชนะการประกวดในอันดับที่ 1 ถึง อันดับที่ 3 จะได้รับรางวัลสูงสุดเพียงรางวัลเดียว
          4. ภาพถ่ายที่ได้รับรางวัลถือเป็นลิขสิทธิ์ของโครงการ Earth Hour ของ WWF ประเทศไทย และจะไม่มีการส่งผลงานคืนหลังสิ้นสุดการประกวด
          5. การตัดสินใจใดๆ โดยผู้จัดการประกวดและคำตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด
          6. คณะกรรมการผู้ตัดสินการประกวดไม่มีสิทธิ์ส่งผลงานเข้าร่วมประกวด
          7. ส่งผลงานเข้าร่วมการประกวดด้วยตนเองหรือทางไปรษณีย์มาที่ WWF ประเทศไทย 2549/45 อาคารพหลโยธิน พาร์ค เพลส แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 หากส่งด้วยวิธีการอื่นจะไม่รับพิจารณาผลงานไม่ว่าด้วยกรณีใด ๆ
          8. ปิดรับผลงานวันที่ 7 เมษายน 2553 (ดูวันที่จากตราประทับไปรษณีย์เป็นสำคัญ)
          9. การเข้าร่วมการประกวดแสดงถึงการเห็นด้วยและการยอมรับในสัญญาและเงื่อนไขตามที่ผู้จัดการประกวดกำหนด

          กำหนดการ
          27 มีนาคม ถึง 7 เมษายน 2553 เปิดรับผลงาน
          19 เมษายน 2553 ประกาศผลการตัดสินและรายชื่อผู้ได้รับรางวัลทาง www.earthhour.org/thailand
          27 เมษายน 2553 พิธีมอบรางวัล โดยท่านผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

          สถานที่ Landmark ในการถ่ายภาพ

          พื้นที่สัญลักษณ์ (Landmark) ที่เข้าร่วมในโครงการปิดไฟ...ให้โลกพัก หรือ โครงการ Earth Hour 2010 ได้แก่ กรุงเทพมหานคร บริเวณ วัดอรุณ,และวัดสุทัศน์ บริเวณหน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร, ขอนแก่น บริเวณ ประตูเมืองจังหวัดขอนแก่น และศาลเจ้าพ่อหลักเมืองจังหวัด ขอนแก่น, เชียงใหม่ บริเวณวัดพระธาตุดอยสุเทพ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ และประตูท่าแพ

          ของรางวัล
          รางวัลที่ 1 EOS 7D (เฉพาะ body) มูลค่า 55,981 บาท
          รางวัลที่ 2 G11 มูลค่า 19,532. บาท
          รางวัลที่ 3 IXUS 200IS มูลค่า 13,925. บาท
          รางวัลที่ 4 IXUS 95IS มูลค่า 6,532 บาท

          หมายเหตุ ของรางวัลอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
          ผู้ได้รับรางวัลต้องจ่ายภาษี ณ ที่จ่าย 5 % จากมูลค่าของรางวัล
          มูลค่าของรางวัลข้างต้นเป็นมูลค่าก่อนรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม

          ผู้สนใจส่งผลงานเข้าร่วมประกวด สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติม และดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ www.earthhour.org/thailand หรือ http://thailand.panda.org หมดเขตรับผลงานวันที่ 7 เมษายน นี้ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณอโนชา พิชัยศิริ โทร 02 942 7691-4

อั๋น ภูวนาท ชวนคนไทยร่วมรณรงค์ปิดไฟลดใช้พลังงานพร้อมกัน ในโครงการ 60 Earth Hour


         
          เดินหน้าสานต่อโครงการเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่องสำหรับคลื่นกรีนเวฟ 106.5 เอฟเอ็ม ล่าสุดร่วมกับกรุงเทพมหานคร ในการรณรงค์ปิดไฟพร้อมกันทั่วประเทศไทยพร้อมกับอีก 100 กว่าประเทศทั่วโลก อาทิ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย เดนมาร์ก ในโครงการ 60 Earth Hour ที่จะจัดขึ้นหน้าลานอเนกประสงค์ เซ็นทรัลเวิร์ล ในวันเสาร์ที่ 27 มีนาคมนี้ เวลา 20.30-21.30 น. เป็นเวลา 1 ชั่วโมง

          โดยดีเจ อั๋น ภูวนาท คุนผลิน พูดถึงโครงการ 60 Earth Hour ที่กรีนเวฟร่วมกับทางกรุงเทพมหานครนี้ว่า “โครงการ 60 Earth Hour มีเจตนารมณ์ที่ดีที่อยากจะช่วยให้โลกของเราได้พักบ้าง เพราะใน 1 ปีมี 365 วัน ทุกคนใช้พลังงานกันตลอดเวลา อยากให้ทุกคนมาเริ่มปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็นพร้อมกันกับกรีนเวฟใน วันเสาร์ที่ 27 มีนาคมนี้ เวลา 2 ทุ่มครึ่ง-3 ทุ่มครึ่ง เป็นเวลา 1 ชั่วโมง เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็นในทุกๆวัน ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 3 แล้วที่ทางกรีนเวฟร่วมกับกรุงเทพมหานคร และนับเป็นโอกาสพิเศษอันดีที่พวกเราคนไทยทุกคนจะได้ทำความดีร่วมกันเพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวโรกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 83 พรรษา ด้วยการเปิดรับสมัครครอบครัวคนไทยจำนวน 8,300 ครอบครัวร่วมลงนามเพื่อแสดงความตั้งใจทำดีด้วยการลดใช้พลังงานและปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็นผ่านทางwww.greenwave.fm ครับ” 

ดั๊บเบิ้ล เอ จับมือ สำนักงานทั่วโลก ร่วม ปิดไฟลดโลกร้อนกับโครงการ Earth Hour 2010
 
          ดั๊บเบิ้ล เอ ในฐานะผู้สนับสนุนในโครงการ Earth Hour 2010 รณรงค์ให้สำนักงานและพนักงานของดั๊บเบิ้ล เอ ทั่วโลก ร่วมปิดไฟ 1 ชม.ในวันที่ 27 มีค.นี้ สร้างจิตสำนึกกระตุ้นให้ทุกคนช่วยกันเป็นส่วนหนึ่งในการลดปัญหาโลกร้อน พร้อมเดินหน้าปิดไฟเมื่อไม่ใช้งานอย่างต่อเนื่อง ชูแนวคิดกระดาษแก้โลกร้อน

          นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดเผยว่า ดั๊บเบิ้ล เอ ในฐานะผู้นำกระดาษแก้โลกร้อน ได้เข้าร่วมสนับสนุนโครงการ Earth Hour 2010 รณรงค์ปิดไฟพร้อมกันกว่า 4,000 เมืองทั่วโลก ร่วมกับกรุงเทพมหานคร และ WWF ประเทศไทย ในส่วนของดั๊บเบิ้ล เอ ก็จัดกิจกรรมรณรงค์ให้พนักงานและสำนักงานของดั๊บเบิ้ล เอ ทุกสาขาทั่วโลกที่มีอยู่ 18 สาขาร่วมกันปิดไฟพร้อมกัน ภายใต้กิจกรรม “ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมใจปิดไฟ...ให้โลกพัก” ในวันเสาร์ที่ 27 มีนาคม 2553 เป็นเวลา 1 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 20.30 – 21.30 น. เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดการใช้พลังงาน และลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้กับชั้นบรรยากาศ

          นอกจากนี้ดั๊บเบิ้ล เอ ยังรณรงค์ให้ธุรกิจเครือข่ายของดั๊บเบิ้ล เอ ไม่ว่าจะเป็น ดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ เมืองหนังสือของคนไทย , ศูนย์ถ่ายเอกสารดั๊บเบิ้ล เอ ก๊อปปี้เซ็นเตอร์ และร้านจำหน่ายสินค้าเครื่องเขียน ดั๊บเบิ้ล เอ สเตชั่นเนอรี่ ทุกสาขาทั่วประเทศ ร่วมรณรงค์ปิดไฟในวันและเวลาดังกล่าว รวมทั้งสื่อสารไปยังพนักงานภายในองค์กรทุกสาขาทั่วโลก และลูกค้าของดั๊บเบิ้ล เอ ให้มาร่วมกันปิดไฟในที่พักอาศัยของตนเอง เพื่อเป็นการสร้างจิตสำนึกและมีส่วนร่วมในการช่วยลดภาวะโลกร้อน

          “ที่ผ่านมา ดั๊บเบิ้ล เอ มีการรณรงค์เรื่องพลังงานมาอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ การปิดไฟเมื่อไม่ใช้งานทั้งในช่วงพักกลางวัน และเมื่อเลิกใช้ห้องประชุมแล้ว รวมถึงการปิดสวิตซ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็น เป็นต้น เพื่อให้พนักงานได้มีส่วนร่วมและเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดภาวะโลกร้อนให้กับโลกของเรา ” นายชาญวิทย์ กล่าว

          ด้วยกระบวนการและที่มาของกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ที่ผลิตจากต้นกระดาษบนคันนา อันเป็นที่มาของกระดาษแก้โลกร้อน โดยเฉลี่ยกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ 1 รีมช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 3 กิโลกรัม นอกจากนี้ของเหลือทิ้งจากกระบวนการผลิต เช่น เปลือกไม้ เศษไม้ และน้ำมันยางดำ จะนำไปเป็นวัตถุดิบในการผลิตกระแสไฟฟ้า ทำให้ของเสียไม่เสียของ นับเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุ้มค่าและหมดจด ช่วยลดมลภาวะ ลดการกำจัดของเสีย และลดการใช้น้ำมันหรือเชื้อเพลิงฟอสซิลได้ถึง 340 ล้านลิตรต่อปี

โครงการ “ปิดไฟหนึ่งชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน” (60 Earth Hour)


         
          เนื่องจากในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าทั่วโลกกำลังประสบปัญหาด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม ซึ่งปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมไม่ใช่ปัญหาของใครคนใดคนหนึ่งแต่เป็นปัญหาของมวลมนุษยชาติที่เราต้องร่วมมือกัน ดังนั้นการรณรงค์เกี่ยวกับการประหยัดพลังงาน และร่วมกันดูแลสิ่งแวดล้อมจึงเป็นการหน้าที่ของทุกๆ คนและทุกภาคส่วนที่ควรร่วมมือกัน ซึ่งรวมถึงทาง โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด ที่ได้ตระหนักถึงภาวะที่เกิดขึ้น จึงขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการ “ปิดไฟหนึ่งชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน” (60 Earth Hour) ในวันเสาร์ที่ 27 มีนาคมนี้ โดยกิจกรรมต่างๆ ที่ทางโรงแรมฯ ได้ร่วมรณรงค์เกี่ยวกับการลดการใช้พลังงานในโอกาสนี้ คือ

          ประชาสัมพันธ์ให้กับแขกผู้มาพำนัก ณ โรงแรมฯ และพนักงานของโรงแรมฯ เกี่ยวกับกิจกรรม “ปิดไฟหนึ่งชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน” (60 Earth Hour)

          ปิดไฟในบริเวณที่ไม่ได้ใช้งานเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ในเวลา 20.30 – 21.30 น. อาทิ ป้ายไฟสัญลักษณ์ของโรงแรมฯ สปอร์ตไลท์ และป้ายไฟโฆษณาต่างๆ บริเวณรอบอาคาร

          เชิญชวนลูกค้าผู้มาใช้บริการห้องอาหาร ร่วมรับประทานอาหารใต้แสงเทียน ในเวลา 20.30 – 21.30 น.
          จัดการแสดงดนตรีแนวอะคูสติกกีต้าร์ ที่นักร้องโชว์พลังเสียงโดยไม่ใช้ไมโครโฟน และเครื่องดนตรีไฟฟ้าใดๆ ขับกล่อมให้ผู้ฟังภายใต้บรรยากาศโรแมนติกใต้แสงเทียน ที่ออคิด ล๊อบบี้เลานจ์

          ร่วมกิจกรรม “ปิดไฟหนึ่งชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน” (60 Earth Hour) กับทางจังหวัด และภาคีภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในขอนแก่น โดยการร่วมจัดนิทรรศการให้ความรู้และรณรงค์เพื่อการลดโลกร้อน

โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพฯ ร่วมรณรงค์ลดโลกร้อนกับโครงการ “Earth Hour”


         
          โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพฯ ได้ประกาศเจตนารมณ์ร่วมกับโรงแรมฮิลตันต่างๆ ถึง 16 แห่งในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิคเพื่อร่วมสนับสนุนกองทุนสัตว์ป่าโลกหรือที่รู้จักกันในนาม “WWF” กับโครงการ “Earth Hour” เพื่อร่วมกันช่วยลดโลกร้อนในเดือนมีนาคมนี้

โครงการ Earth Hour โดยกองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF) คือโครงการระดับโลกที่ร่วมกับประชาชนอีกนับล้านคนเพื่อสร้างจิตสำนึกในการประหยัดพลังงาน และการมีส่วนร่วมจากประชาชนในการลดภาวะโลกร้อน ทั้งหน่วยงานเอกชน และหน่วยงานราชการอื่นๆ ด้วยการร่วมปิดไฟเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ในวันเสาร์ที่ 27 มีนาคม 2553 ตั้งแต่เวลา 20.30 น – 21.30 น

          ในฐานะที่มีส่วนให้การสนับสนุนโครงการนี้ โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพฯ ได้รณรงค์กิจกรรมต่างๆ เพื่อเปิดโอกาสให้แขกของทางโรงแรม และเพื่อนพนักงานทุกท่านพร้อมใจกันลดโลกร้อนในวันที่ 27 มีนาคม 2552 โดยมีกิจกรรมสำคัญต่างๆ ดังต่อไปนี้

          บริการอาหารค่ำใต้แสงเทียนในห้องอาหารต่างๆ รวมถึง ปิกนิกใต้แสงจันทร์ ณ สถานที่สุดโรแมนติกบนสวนลอยฟ้าของโรงแรม
          สปา ทรีทเม้นท์ที่จะโรแมนติกมากขึ้นในแสงแทียน
          ลดการใช้ไฟบริเวณภายนอกอาคาร
          ลดการใช้เครื่องปรับอากาศในบางพื้นที่ในบริเวณโรงแรม
          ขอความร่ววมมือจากแขกในการร่วมปิดไฟภายในห้องพัก
          ชักชวนให้พนักงานทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการด้วยการปฏิบัติเช่นเดียวกันนี้ที่บ้าน

          ฮิลตันได้ให้คำมั่นสัญญาในการทำงานพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมมาอย่าต่อเนื่อง และยังเป็นหนึ่งในสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้งองค์กรที่มีชื่อว่า International Tourism Partnership (www.tourismpartnership.org) องค์กรนี้เกิดขึ้นมาด้วยวัตถุประสงค์ที่ต้องการชักจูงผู้นำ และบริษัทด้านการท่องเที่ยวต่างๆ ให้เกิดการประสานความร่วมมือต่างๆเข้าด้วยกัน โดยเริ่มจากระดับชุมชน เมือง ไปจนถึงระดับประเทศ เพื่อกระตุ้นให้มีการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อธุรกิจการโรงแรม และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

          นอกจากการสนับสนุนโครงการลดโลกร้อนโดยโรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพฯ และโรงแรมฮิลตันต่างๆในภูมิภาคเอเชียแล้ว ยังมีเครือโรงแรมทั้งในยุโรป และอเมริกาที่ให้การสนับสนุนโครงการนี้อีกด้วย