จากการพบกับตัวแทนภาครัฐในวันนี้ นายขจรศักดิ์ กล่าวว่า “ขอขอบคุณท่าน รมช. คลัง จุลพันธ์ที่รับฟังความเดือดร้อนของชาวไร่ยาสูบและช่วยเหลือดูแล หาทางแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมมาโดยตลอด” ด้านนายอรุณ โปธิตา ตัวแทนชาวไร่ยาสูบบ่มเองจากจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวขอบคุณไปยังการยาสูบแห่งประเทศไทยที่รับฟังปัญหาและรับปากว่าจะช่วยซื้อใบยาที่เหลือจากชาวไร่เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
ชาวไร่ยาสูบระบุว่า ปีนี้ จะมีการประชุมกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลก (WHO FCTC- COP) ครั้งที่ 11 ที่มักจะตามมาด้วยนโยบายสุดโต่ง เช่น การเสนอให้ชาวไร่เลิกทำยาสูบและไปปลูกพืชอื่นทดแทน หรือการจะให้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากผู้ผลิตเช่น ยสท. เพราะทุกครั้งมีแต่ตัวแทนจากฝ่ายสาธารณสุขไปเข้าร่วมประชุม และกำหนดจุดยืนของประเทศไทยเพียงลำพังโดยขาดความโปร่งใสและการมีส่วนร่วมจากกระทรวงการคลัง ทำให้ชาวไร่ต่างกังวลกันว่าจะกลายเป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนที่มีอยู่แล้วให้แย่ลงไปกว่าเดิมอีก

ทั้งนี้ ชาวไร่ยาสูบได้เรียกร้องให้มีตัวแทนจากกระทรวงการคลังเข้าร่วมการประชุมการประชุมกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลก (WHO FCTC - COP) ครั้งที่ 11 ในเดือนพฤศจิกายน 2568 นี้ด้วย และขอให้กระทรวงการคลังได้มีส่วนร่วม แสดงความคิดเห็น กำหนดท่าทีของประเทศไทยก่อนการไปประชุม โดยคำนึงถึงผลกระทบอย่างรอบด้าน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดนโยบายสุดโต่ง ที่จะมาซ้ำเติมความเดือดร้อนของชาวไร่อีก
ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเผยภายหลังการพูดคุยกับกลุ่มชาวไร่ว่า “กระทรวงฯ จะพิจารณาส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุมอย่างแน่นอน เพราะได้รับทราบแล้วว่าผลของการประชุมจะส่งผลกระทบกับ ยสท. และชาวไร่ยาสูบ”