นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล กล่าวต่อว่า ขอขอบคุณสถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช ศูนย์วนวัฒนวิจัยที่ 6 (นครราชสีมา) และสถานีวิจัยและฝึกนิสิตวนศาสตร์วังน้ำเขียว ที่ได้ถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีจากผลงานวิจัยนี้ และได้นำไปขยายผลสู่การอบรม การผลิตกล้าไม้และเชื้อเห็ดไมคอร์ไรซาในระดับชุมชน ถือเป็นการนำเทคโนโลยีที่เหมาะสมไปสู่การใช้จริงที่สามารถผลิตได้ด้วยอุปกรณ์ในครัวเรือน และเกิดประโยชน์ทั้งด้านอาชีพ รายได้ การเพิ่มพื้นที่สีเขียว และการฟื้นฟูระบบนิเวศ การดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งทำให้เกิดภาวะโลกร้อน และขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้ความร่วมมือกันอย่างดียิ่ง ที่ให้เกิดความร่วมมือกันอย่างแข็งขันจนงานวันนี้สำเร็จไปด้วยดี การดำเนินงานในครั้งนี้ยังได้รับการสนับสนุนและประสานงานจากหลายภาคส่วน และต้องขอขอบคุณอย่างยิ่งที่มูลนิธิผืนป่าในใจเรา ที่เล็งเห็นถึงศักยภาพขององค์ความรู้ดังกล่าว และร่วมมือในการจัดอบรมให้กับเยาวชนและประชาชนกว่า 70 คน รวมถึงการขยายผลสู่กิจกรรมปลูกป่าในวันนี้ ด้วยกล้าไม้ที่ผสมเชื้อเห็ดไมคอร์ไรซา จำนวน 5,000 ต้น
“นี่คือภาพสะท้อนของการขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy) ที่กระทรวง อว. ให้ความสำคัญ โดยการนำงานวิจัยและนวัตกรรมมาสร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจ พร้อมกับอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน” นางสาวสุดาวรรณ กล่าว

ในการนี้ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) นำโดย ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสํานักงานการวิจัยแห่งชาติ พร้อมด้วยนางสาวเสาวนีย์ มุ่งสุจริตการ คณะผู้บริหาร วช. และบุคลากร วช. ร่วมปลูกป่าด้วยกล้าไม้ผสมเชื้อเห็ดไมคอร์ไรซา ซึ่งได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจาก วช. อีกด้วย