happy on September 27, 2023, 01:11:38 PM
สสว. ผนึกพลัง วว. หนุนธุรกิจเครื่องสำอาง SMEs ไทย สู่ ตลาดยุโรป 
สร้างสัมพันธ์เครือข่ายนานาชาติ จัดเสวนาเตรียมความพร้อมสู่มาตรฐานอียู





               ผ่านไปอย่างสวยงาม สำหรับการอบรมเชิงปฏิบัติการ เพื่อเสริมทักษะความรู้ของธุรกิจแห่งอนาคตให้กับผู้ประกอบการ SMEs ไทย เรื่อง “The opportunity of Thai cosmetic ingredients/products to EU market” โดย Dr. Caroline BASSONI, Regulatory Affairs Director, COSMED, FRANCE ภายใต้โครงการส่งเสริมผู้ประกอบการผ่านระบบ BDS (MSME Recovery & Beyond) ปีงบประมาณ 2566” ใต้แคมเปญ “SME ปังตังได้คืน ก้าวสู่ปีที่ 2” จัดโดย สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) พร้อมสานสัมพันธ์ COSMED องค์กรระดับนานาชาติ หนึ่งในเครือข่ายผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเครื่องสำอางของประเทศฝรั่งเศส มาให้ได้ความรู้รอบด้านตามมาตรฐานอียู เพื่อหนุนเสริมผู้ประกอบการ SMEs ไทย กลุ่มเครื่องสำอาง ได้เตรียมความพร้อมเพื่อการส่งออกผลิตภัณฑ์สู่ตลาดยุโรปต่อไป







 
                ภายในงานเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งจัดขึ้น ณ ห้องประชุม ชั้น 5 อาคาร Admin สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ได้รับเกียรติจาก รศ.ดร.วีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.), ศ. (วิจัย) ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.), Dr. Caroline Bassoni, (ดร.แคโรไลน์ บาสโซนี) Regulatory Affairs Director, COSMED, France ร่วมด้วยผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญ ร่วมให้ความรู้ และแนะแนวทาง ท่ามกลางผู้ประกอบการเข้าร่วมสัมมนาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจำนวนมาก




               รศ.ดร.วีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว) เปิดเผยว่า “ในปีนี้ สสว. ได้สานต่อแคมเปญ ‘SME ปังตังได้คืน ก้าวสู่ปีที่ 2’ โดยมุ่งส่งเสริมผู้ประกอบการผ่านระบบ BDS (MSME Recovery & Beyond) ปีงบประมาณ 2566 เพื่อให้ผู้ประกอบการ MSME ได้รับประโยชน์จากการส่งเสริม และสนับสนุนการพัฒนาธุรกิจได้เพิ่มขึ้น โดยมีการปรับรูปแบบการดำเนินการให้สะดวกขึ้น หลากหลายขึ้น และมุ่งเป้ามากขึ้น มุ่งเน้นการยกระดับมาตรฐานในทุกธุรกิจให้เทียบเท่าสากล เพื่อธุรกิจจะเข้มแข็ง พร้อมหนุนเสริมให้เศรษฐกิจของประเทศแข็งแรง เติบโต มั่นคง อย่างยั่งยืนต่อไป การจัดเสวนาเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่เราตั้งใจจัดขึ้น โดยสืบเนื่องมาจากเมื่อเร็วๆ นี้ สสว. กับ วว. ได้เดินทางไปประเทศฝรั่งเศส และประเทศเบลเยี่ยม เพื่อศึกษาดูงาน และหารือกับองค์กรชั้นนำ มุ่งสร้างความร่วมมือเครือข่ายนานาชาติ เพื่อหาแนวทางการดำเนินงานระหว่างกัน สู่การพัฒนา เพื่อยกศักยภาพ SME ไทย ให้ประสบความสำเร็จ”

                “เมื่อกลับมา เราได้หารือกันถึงแนวทางการหนุนเสริมผู้ประกอบการไทย จึงเกิดสัมมนาในหัวข้อ “The opportunity of Thai cosmetic ingredients/products to EU market” ครั้งนี้ขึ้น เป็นกิจกรรมแรก พร้อมเรียนเชิญDr.Caroline BASSONI, Regulatory Affairs Director, COSMED, FRANCE มาบรรยายให้ผู้ประกอบการไทยกลุ่มธุรกิจเครื่องสำอาง ที่ต้องการส่งออกผลิตภัณฑ์สู่ตลาดยุโรป ได้รับรู้แนวทางในการเตรียมความพร้อม เพื่อเข้าสู่ตลาดของกลุ่มประเทศอียูต่อไป”




                ด้าน ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กล่าวว่า “ปัจจุบัน ธุรกิจเครื่องสำอางของประเทศไทยมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยสนับสนุนด้านความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายของทรัพยากรชีวภาพประกอบด้วย พืช สัตว์ จุลินทรีย์ และแร่ธาตุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านสมุนไพร ซึ่ง วว. และ สสว. ในฐานะหน่วยงานภาครัฐที่มีภารกิจในการสนับสนุนการสร้างศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขัน ได้เล็งเห็นความสำคัญในการนำมาสร้างมูลค่าเพิ่มและต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานสากล เพื่อสร้างความยั่งยืนในการทำธุรกิจของผู้ประกอบการไทยทั้งในและต่างประเทศ นอกจากภารกิจดังกล่าวแล้ว วว. ยังมีโครงสร้างพื้นฐาน คือ ศูนย์บริการนวัตกรรมเวชสำอางแบบครบวงจร หรือ ICOS ที่มีศักยภาพรองรับการให้บริการผลิตเครื่องสำอาง สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการมีแบรนด์ และเป็นเจ้าของธุรกิจเครื่องสำอาง โดยไม่ต้องลงทุนตั้งโรงงาน ส่วน สสว. มีภารกิจมุ่งบูรณาการ และผลักดันการส่งเสริม MSME ให้สามารถเติบโตและแข่งขันได้ในระดับสากล จากความพร้อมและศักยภาพของทั้งสองหน่วยงาน จึงเป็นกลไกขับเคลื่อน ในการสนับสนุนส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยเข้มแข็งและมีศักยภาพด้านการแข่งขันมากขึ้น”




                ขณะที่ Dr.Caroline Bassoni, Regulatory Affairs Director, COSMED, France เปิดเผยว่า “COSMED เป็นองค์กรที่ให้การสนับสนุนผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง เช่น เป็นสถาบันอบรมครูฝึก ตรวจสอบและติดตามเกี่ยวกับระเบียบปฏิบัติ เชื่อมต่อและสร้างเครือข่ายให้กับภาคส่วนต่างๆ ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง เช่น ให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับการจัดตั้งบริษัท หรือแนะนำแนวทางแก้ปัญหาที่เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจด้านเครื่องสำอาง โดย COSMED มีบทบาทในการพัฒนาและแสดงความเห็นทั้งในด้านวิทยาศาสตร์ และระเบียบปฎิบัติเกี่ยวกับเครื่องสำอาง รวมถึงทำงานร่วมกับเครือข่ายต่างๆ ในทุกระดับ ทั้งระดับประเทศ และระดับนานาชาติ และทำงานร่วมกับหน่วยงานด้านเครื่องสำอางหลายภาคส่วน ในหลายประเทศ การรับเชิญมาบรรยายในครั้งนี้ รู้สึกประทับใจถึงความตั้งใจของคนไทย ที่จะพัฒนาตนเอง โดยมีการจัดทำมาตรฐานเบื้องต้น ทั้งในผลิตภัณฑ์สารสกัด ซึ่งทาง Cosmed ซึ่งเป็นองค์กรที่มุ่งเน้นส่งเสริมผู้ประกอบการด้านเครื่องสำอางในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งมีสมาชิกมากกว่า 1000 องค์กร เรามั่นใจว่า จะสามารถสร้างความร่วมมือและการสร้างเครือข่ายของผู้ประกอบการทั้งสองประเทศ ทั้งด้านองค์ความรู้ และเทคโนโลยี เช่น ผลิตภัณฑ์สารสกัดที่ได้ไปเยี่ยมชม เพื่อให้ผู้ประกอบการได้มีพันธมิตรอันเป็นการสร้างโอกาสทางการตลาดต่อไป"




                ด้าน นายชลธิศ ไพศาขมาศ รองประธาน บริษัท เนเจอร์ เบนเนฟิท จำกัด หนึ่งในผู้ประกอบการธุรกิจเครื่องสำอางที่ได้เข้าร่วมสัมมนา กล่าวว่า “บริษัทฯ เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเซรั่มช่วยลดเลือนริ้วรอย ซึ่งมีส่วนผสมสารสกัดจากกระชายดำ นับเป็นครั้งแรก ที่นำกระชายดำมาใช้ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว”

               “เราได้รับเชิญจาก วว. ซึ่งทำงานร่วมกันอยู่ ให้มาร่วมฟังคำบรรยาย โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับ ISO ระบบ 16128 มาตรฐานเกี่ยวกับเครื่องสำอางจากธรรมชาติ ซึ่งของเรามีส่วนผสมที่เกี่ยวข้องกับระบบนี้อยู่ จึงสนใจมากและมารับฟัง เพราะอยากให้สินค้าตัวนี้ ได้มาตรฐาน ISO 16128”

               นายชลธิศ กล่าวต่อไปว่า “เคยมีชาวต่างชาติมาชมสินค้าของเรา และได้สอบถามถึงมาตรฐานในการผลิตของเราว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งเขาได้สอบถามเรื่องมาตรฐาน ISO 16128 เลยคิดว่าโครงการนี้ เป็นจังหวะพอดีกับที่เราต้องต้องการจะทราบ เลยเข้ามาร่วม ซึ่งมีประโยชน์มาก เพราะตรงกับสิ่งที่เรากำลังต้องการอยู่พอดี” นายชลธิศ กล่าวด้วยว่า “ยอมรับว่าตอนแรกได้ยินแต่ชื่อ BDS ก็ไม่เข้าใจว่าโครงการนี้จะช่วยอะไรได้ แต่เมื่อได้ลงทะเบียน และมาร่วมรับฟังแล้ว รู้สึกว่าเป็นโครงการที่มีประโยชน์มากสำหรับผู้ประกอบการในแวดวงเครื่องสำอาง เพราะจะช่วยให้เราสามารถพัฒนาสินค้าได้ง่ายขึ้น ที่สำคัญ ยังมีการสนับสนุนจากภาครัฐที่ส่งเสริมให้เข้าถึงบริการต่างๆ ได้เร็วขึ้นด้วย”







                ภายในการสัมมนาฯ ผู้ประกอบการได้รับความรู้และแนวทางในการเตรียมความพร้อม ผ่านเนื้อหาเข้มข้นเกี่ยวกับเครื่องสำอาง เพื่อเข้าสู่ตลาดของกลุ่มประเทศอียู ทั้งระเบียบและมาตรฐานเบื้องต้นสำหรับผลิตภัณฑ์สารสกัด อาทิ กรอบและขอบข่ายการกํากับดูแล และข้อกําหนด รวมถึงเอกสารที่สำคัญเพื่อส่งออกสารสกัดจากธรรมชาติไปยังสหภาพยุโรปหรือประเทศฝรั่งเศส, วิธีการอ้างส่วนผสมและผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติและออร์แกนิกในสหภาพยุโรปหรือประเทศฝรั่งเศส, การรับรองเครื่องสําอางออร์แกนิกในประเทศไทย, การทดสอบวัสดุที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ สําหรับผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ และเครื่องสำอาง

               การอบรมครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญ ในการยกระดับผู้ประกอบการ SME ไทย ด้านเครื่องสำอาง ให้มีพร้อมเพื่อเข้าสู่ตลาดสากล และไม่หยุดที่จะพัฒนาให้เติบโตอย่างยั่งยืน