เมอร์เซเดส-เบนซ์ ชวนคนไทย #หยุดโซเชี่ยลไปขับเบนซ์เที่ยวกับแม่
ต่อยอดแคมเปญ Momcation Test Drive สร้างช่วงเวลาที่มีคุณค่าตลอด 2 วัน 1 คืน
ในปัจจุบัน คนไทยใช้เวลาอยู่บนอินเตอร์เน็ตและโซเชี่ยลมีเดียโดยเฉลี่ยมากกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งการที่คนไทยมี Social Routine แบบนี้ อาจจะมีทั้งข้อดีทั้งในแง่ของการที่ได้พบเจอกับสังคมและคอมมูนิตี้ใหม่ๆ หรืออาจเป็นช่องทางในการหาความรู้ จนไปถึงการสร้างรายได้ที่เกิดเป็นอาชีพที่มั่นคง แต่บางครั้งสิ่งเหล่านี้ก็เกิดเป็นข้อเสียที่ทำให้คนในยุคปัจจุบันลืมใช้เวลาในโลกจริงเพื่อสร้างโมเมนต์ดีๆ กับคนที่รัก โดยไม่ยึดติดกับโซเชี่ยลมีเดียมากจนเกินไปเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในฐานะแบรนด์ที่เข้าใจผู้บริโภคในประเทศไทยเป็นอย่างดี จึงดึงอินไซด์การใช้โซเชี่ยลมีเดียของคนไทยมาเป็นหัวใจในการสร้างสรรค์แคมเปญในโอกาสสุดพิเศษอย่าง “เทศกาลวันแม่” โดยต่อยอดแคมเปญ “Momcation Test Drive” ที่จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ส่งเสริมให้ทุกคนมี Quality Time กับคนที่สำคัญที่สุดในชีวิต เปิดโอกาสให้ลูกๆ ได้นำยนตรกรรมที่เหนือชั้นของเมอร์เซเดส-เบนซ์ พาคุณแม่ไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ตลอด 2 วัน 1 คืน ในช่วงเดือนสิงหาคม โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ แต่มีเพียงเงื่อนไขเดียวคือการไปเที่ยว
ในครั้งนี้ ขอให้คุณ “หยุดโซเชี่ยล” ในทุกช่องทาง เพื่อพาคุณแม่ไปเที่ยวและใช้เวลาอย่างมีคุณค่าในทริป
ที่มีความหมายที่สุด พร้อมขับเคลื่อนโมเมนต์ดีๆ ด้วยยนตรกรรมหลากหลายรุ่นของเมอร์เซเดส-เบนซ์
ทั้งในกลุ่มซาลูนและเอสยูวี ไม่ว่าจะเป็น A 200 AMG Dynamic, GLA 200 AMG Dynamic, CLS 220 d AMG Premium, C 200 Coupé AMG Dynamic, E 300 e AMG Dynamic และ GLC 220 d 4MATIC Coupé AMGสำหรับแคมเปญ “Momcation Test Drive” ในปีนี้ กลยุทธ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ไม่ได้จบเพียงแค่การชวน
ให้ลูกๆ พาคุณแม่ไป Test Drive อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือการเชิญชวน Influencer มาร่วมตอกย้ำสิ่งที่แบรนด์ต้องการจะสื่อสาร ด้วยการหยุดทำคอนเทนต์ลงบนโซเชี่ยลมีเดียทุกช่องทาง ในช่วงเทศกาลวันแม่เป็นเวลา 2 วัน และมาแชร์ความประทับใจ รวมถึงโมเมนต์ต่างๆ ที่ได้ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์พาคุณแม่ไปทริปโดยที่ไม่มีการใช้โซเชี่ยลมีเดียและถ่ายคอนเทนต์ระหว่างทาง
สำหรับผู้ที่สนใจ กิจกรรม “Momcation Test Drive : หยุดโซเชี่ยล ไปขับเบนซ์เที่ยวกับแม่” สามารถคลิกสมัครเพื่อเข้าร่วม Test Drive ได้จนถึงวันที่ 15 สิงหาคมนี้ ผ่านลิงก์ http://mb4.me/QQGoEXsG พร้อมติดตามรายละเอียดของกิจกรรมเพิ่มเติม และประกาศผลผู้ได้รับเลือกเข้าร่วมกิจกรรม ผ่านช่องทาง Facebook ของ Mercedes-Benz Thailand
#MomcationTestDrive #หยุดโซเชี่ยลไปขับเบนซ์เที่ยวกับแม่
#MercedesBenz #MercedesBenzThailand
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์รุ่นต่างๆของเมอร์เซเดส-เบนซ์ หรือลงทะเบียนเพื่อทดลอง
ขับได้ที่ www.mercedes-benz.co.th หรือที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ หรือติดตามข่าวสารอัพเดทผ่านทาง Facebook : Mercedes-Benz Thailand
IG: @MercedesBenzThailand และ LINE: @mercedesbenzth###
เกี่ยวกับ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจีเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี เป็นส่วนหนึ่งของบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ กรุ๊ป เอจี ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบธุรกิจทั่วโลกของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และรถตู้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ด้วยจำนวนพนักงานกว่า 170,000 คนทั่วโลก โดยมี โอล่า คัลเลนเนียส เป็นประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัทมุ่งเน้นการพัฒนา ผลิต และจำหน่ายรถยนต์ รถตู้ และบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ นอกจากนั้น ยังมีเจตนารมณ์ในการเป็นผู้นำของโลกในด้านยานยนต์ไฟฟ้าและซอฟต์แวร์รถยนต์ กลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทประกอบด้วยแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และแบรนด์ย่อย เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี เมอร์เซเดส-มายบัค เมอร์เซเดส-อีคิว จี-คลาส และแบรนด์สมาร์ท โดยมีแบรนด์ Mercedes me ที่นำเสนอการเข้าถึงบริการด้านดิจิทัลจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั้งนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์โดยสารระดับลักชัวรีรายใหญ่ที่สุดของโลก ในปี 2564 บริษัทฯ จำหน่ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลราว 2 ล้านคัน และรถตู้เกือบ 415,300 คัน เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี ขยายเครือข่ายการผลิตใน 2 กลุ่มธุรกิจอย่างต่อเนื่องทั่วโลก โดยมีฐานการผลิตราว 35 แห่งใน 4 ทวีป ควบคู่ไปกับแนวทางการพัฒนาที่ตอบสนองความต้องการในด้านยานยนต์ไฟฟ้า ขณะเดียวกัน บริษัทได้พัฒนาเครือข่ายการผลิตแบตเตอรี่ของตัวเองทั่วโลกใน 3 ทวีป การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนล้วนมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งทั้งต่อกลยุทธ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์และต่อบริษัท สำหรับเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี ความยั่งยืนหมายถึงการสร้างคุณค่าให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายในระยะยาว ทั้งลูกค้า พนักงาน นักลงทุน พันธมิตรทางธุรกิจ และสังคมโดยรวม โดยอาศัยพื้นฐานของกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของกลุ่ม เมอร์เซเดส-เบนซ์ กรุ๊ป ซึ่งมุ่งรับผิดชอบต่อผลกระทบในด้านเศรษฐกิจ สภาพแวดล้อม และสังคม จากกิจกรรมทางธุรกิจต่าง ๆ ของบริษัท และให้ความสำคัญต่อห่วงโซ่คุณค่าโดยรวม
