“ส.มวยอาชีพ-กกท.กองทุน’ ทำหลักสูตร ‘มวยไทย 9 ขั้น’
ยกระดับมาตรฐานหนึ่งเดียวเผยแพร่สู่นานาชาติ
“ส.มวยอาชีพ” จับมือ “กกท.-กองทุนฯ” จัดอบรม Work Shop รวมถึงผลิต และเผยแพร่หลักสูตร “มวยไทย 9 ขั้น” ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ "รองน้อย" นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม รองผู้ว่าการ กกท. เชื่อช่วยยกระดับมาตรฐานให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล พร้อมสร้างแรงบันดาลใจยุวชนเยาวชนสนใจมวยไทยมากขึ้น เพื่อพัฒนาสู่กีฬาอาชีพอย่างเป็นระบบ และเพิ่มบุคลากรวงการมวยไทยให้มี “One Standard Muaythai” มาตรฐานเป็นหนึ่งเดียว และนำไปเผยแพร่สู่นานาชาติต่อไปสมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) โดยสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF) จัดกิจกรรมอบรม Work Shop รวมถึงผลิต และเผยแพร่หลักสูตร “มวยไทย 9 ขั้น” ณ ลานด้านหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2566 โดยมี "รองน้อย" นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาอาชีพ และกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมภายในงานยังได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิด้านมวยไทย เข้าร่วมการเสวนา ประกอบด้วย "ชาติซ้าย" นายสมชาติ เจริญวัชรวิทย์ นายกสมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย, ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ นายกสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ และประธานสหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ (อิฟม่า), ดร.ปัญญา หาญลำยวง คณะกรรมการติดตามการใช้จ่ายงบประมาณของกองทุนฯ รวมทั้งผู้ฝึกสอน ผู้ช่วยปฏิบัติงานมวย นักกีฬา นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่เกี่ยวข้องด้านการกีฬามวยไทย อาทิ วรพจน์ เพชรขุ้ม อดีตนักชกฮีโร่เหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ 2004 และนักมวยต่างๆ เข้าร่วมด้วยอย่างคับคั่งบรรยากาศในพิธีเปิดตัวกิจกรรมอบรม Work Shop รวมถึงผลิต และเผยแพร่มวยไทย 9 ขั้น เริ่มด้วยการด้วยบทเพลง We Are Muaythai ขับร้องโดยศิลปิน ณัฐธนัญ แซ่เจา โรดริเกซ ตามด้วยกิจกรรมบนเวทีกับการไหว้ครู กับครูเช้า วาทโยธา ครูมวยไทยนานาชาติ, กิจกรรมมวยไทย ซอฟต์ เพาเวอร์ และร่วมพูดคุยกับ Young Designer ในการออกแบบศิลปะมวยไทยบนเสื้อผ้านักมวยหลังจากนั้นเป็นกิจกรรม Work shop มวยไทยรากหญ้าสู่โอลิมปิกเกมส์ และมวยไทยอาชีพกับสุดยอดมวยดัง ตามด้วยการแสดงศิลปะการป้องกันตัวด้วยแม่ไม้มวยไทยจากเยาวชน, การแสดงแฟชั่นโชว์มวยไทย ซอฟต์ เพาเวอร์ จากมิสแกรนด์ทั่วประเทศ พร้อมพบกับดีไซเนอร์ระดับแถวหน้าของเมืองไทย ปิดท้ายด้วยการแสดงจากศิลปินนักร้อง ซอฟต์ เพาเวอร์ อย่าง กระแต - กระต่าย อาร์สยาม และกฤษ เคทีโกรว์สำหรับการจัดกิจกรรมอบรมครั้งนี้ วงเสวนาได้มีการหารือกันอย่างกว้างขวางถึงการทำให้มวยไทยมีมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก ซึ่งทางกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF) โดย “ดร.หญิง” ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนฯ ได้สนับสนุนการจัดกิจกรรมอบรม และทดสอบทักษะ และความรู้ของมวยไทย เพื่อให้ได้รับใบรับรองที่ออกโดย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และสหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ (อิฟม่า) ให้เป็น “One Standard Muaythai” ที่มีมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก"รองน้อย" นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม กล่าวว่า มวยไทยเป็นศิลปะการต่อสู้ชั้นนำโลกของประเทศไทยที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น จนแพร่หลายทั่วโลก และมีชาวต่างชาติให้ความสนใจเรียนมวยไทยกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งต่างมีรูปแบบการสอนจากครูมวยที่หลากหลาย โดยทางสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย กกท. พยายามรวบรวมองค์ความรู้จากทุกแหล่งในประเทศไทย เพื่อเป็นหลักสูตรมาตรฐานกลางของไทย แต่ต้องใช้เวลาอีกพอสมควรนายทนุเกียรติ กล่าวอีกว่า ทางมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ได้จัดทำหลักสูตรมวยไทย 9 ขั้นนี้ขึ้นมา ซึ่งระหว่างนี้เราก็จะนำหลักสูตรนี้สามารถนำมาใช้เผยแพร่ไปสู่คนวงการมวยไทยได้รับทราบได้เลย โดยหวังว่าหลักสูตรมวยไทย 9 ขั้นจะช่วยยกระดับมาตรฐานให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล เพื่อใช้เผยแพร่ในประเทศ และองค์กรระดับนานาชาติอย่าง สหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ (อิฟม่า) จึงต้องขอบคุณมหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติ ที่ได้จัดทำหลักสูตรนี้ขึ้นมา"ชาติซ้าย" นายสมชาติ เจริญวัชรวิทย์ เปิดเผยว่า สมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF) ดำเนินการโครงการอบรม Work Shop รวมถึงผลิต และเผยแพร่หลักสูตรมวยไทย 9 ขั้น ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2565 - พฤษภาคม 2566 ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมไม่น้อยกว่า 1,500 คน ประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิครูมวยไทย ผู้ฝึกสอน ผู้ช่วยปฏิบัติงานมวย นักกีฬา นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่เกี่ยวข้องด้านการกีฬามวยไทย"วัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับยุวชน เยาวชน ให้มาสนใจกีฬามวยไทย และรู้จักศิลปะการต่อสู้ของประเทศไทย และเพื่อสืบสานต่อไป รวมทั้งการส่งเสริม และสนับสนุนการพัฒนากีฬาอาชีพ และกีฬามวยอย่างเป็นระบบ พร้อมกับช่วยส่งเสริม และพัฒนายุวชน เยาวชน ให้มีโอกาสที่จะเติบโตบุคลากรการกีฬา และนันทนาการมีคุณภาพ และมาตรฐานเพิ่มขึ้น และสามารถพัฒนาบุคลากรด้านกีฬามวยให้มีมาตรฐานเป็นหนึ่งเดียว และนำไปเผยแพร่สู่นานาชาติด้วยมาตรฐานที่ผ่านการรับรองจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และองกรค์ระดับนานาชาติของมวยไทย" นายสมชาติ กล่าวในตอนท้ายว่า สำหรัยผลที่คาดหวังจากการจัดกิจกรรม Work Shop ครั้งนี้ เราต้องการให้คนโดยทั่วไปมีความสนใจในกีฬามวยไทย เพิ่มขึ้นร้อยละ 80 รวมไปถึงการเพิ่มขึ้นของบุคลากรที่มีความรู้ทางการกีฬามวยไทย เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 และต้องการที่จะให้มีเยาวชนการให้ความสนใจเรื่องการเข้าศึกษาต่อในด้านกีฬา เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 อีกด้วย