sianbun on June 03, 2009, 06:27:42 PM
จีเอ็ม รุกสร้างศักยภาพการแข่งขันในระยะยาว พร้อมเสริมความเข้มแข็งให้แบรนด์หลักทั่วโลก 
 
             การดำเนินธุรกิจ และการให้บริการลูกค้า จะเดินหน้าต่อไป

          เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ป (NYSE: GM) ประกาศบรรลุข้อตกลงกับกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ผู้สนับสนุนรายใหญ่ที่สุดของจีเอ็ม รุกเข้มสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน และมีผลกำไรในระยะยาว สำหรับสี่แบรนด์หลักของจีเอ็ม ทั้ง เชฟโรเลต คาดิลแลค บูอิค และจีเอ็มซี มุ่งสร้างความเชื่อมั่นให้แก่เจ้าของรถในเครือจีเอ็ม และลูกค้าที่ต้องการซื้อรถยนต์ และรถกระบะในอนาคต

          ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว “จีเอ็ม ใหม่” จะได้รับการสร้างสรรค์จากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งที่สุด และจากแบรนด์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของจีเอ็ม ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ทั้งนี้ จีเอ็ม ใหม่ จะเผยโฉมสู่สาธารณชนด้วยตัวเลขหนี้ที่ลดลง และต้นทุนการดำเนินงานที่ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์จีเอ็ม ในสหรัฐฯ จีเอ็ม ใหม่จะมุ่งมั่นสร้างความแข็งแกร่งให้แก่แบรนด์หลักทั้ง คาดิลแลค เชฟโรเลต บูอิค และจีเอ็มซี ที่ได้รับรางวัลยานยนต์ยอดเยี่ยมมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เชฟวี่ มาลิบู (รถยอดเยี่ยมแห่งปีของภูมิภาคอเมริกาเหนือ ประจำปี 2551) คาดิลแลค ซีทีเอส (รถยอดเยี่ยมแห่งปีของนิตยสารมอเตอร์ เทรนด์ ประจำปี 2551) รวมถึงบูอิค (คว้าอันดับหนึ่งจากการศึกษาหัวข้อยานยนต์ที่สามารถเชื่อมั่นได้ของสถาบันเจ-ดี พาวเวอร์ ประจำปี 2552) จีเอ็ม ใหม่ยังคงความมุ่งมั่นเป็นผู้นำในระดับโลก ในการพัฒนาการใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม คุณภาพและความน่าเชื่อถือ การออกแบบที่สวยงาม การบริการลูกค้า และเหนือสิ่งอื่นใด คือคุณค่าของตัวผลิตภัณฑ์   
   
          จีเอ็ม ใหม่ จะบริหารงานโดยทีมผู้บริหารชุดปัจจุบันของจีเอ็ม โดยผู้ถือหุ้นหลักคือกระทรวงการคลังสหรัฐฯ สหภาพแรงงานยานยนต์ และรัฐบาลแคนาดา ข้อตกลงระหว่างเจนเนอรัล มอเตอร์ส และกระทรวงการคลังสหรัฐฯในการขายทรัพย์สินจากจีเอ็ม สู่นิติบุคคลจีเอ็ม ใหม่ จะต้องได้รับการอนุมัติจากกระบวนการปรับโครงสร้างภายใต้การกำกับดูแลของศาล Chapter 11 ของกฎหมายล้มละลายสหรัฐฯ ซึ่งจีเอ็ม ได้เริ่มต้นกระบวนการดังกล่าวในวันนี้ ในศาลล้มละลายทางตอนใต้ของรัฐนิวยอร์ก โดยได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ และสหภาพแรงงานยานยนต์ คาดว่า จีเอ็ม ใหม่ จะได้รับการอนุมัติจากศาลอย่างรวดเร็ว และเปิดตัวในฐานะบริษัทที่เป็นอิสระประมาณในอีก 60 ถึง 90 วัน   
   
          การดำเนินงานของจีเอ็มที่อยู่นอกสหรัฐฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการของศาลในสหรัฐฯ และไม่มีผลกระทบโดยตรงกับแผนงานของจีเอ็ม และการดำเนินงานของจีเอ็มนอกสหรัฐฯ นอกจากนี้ จีเอ็ม ยังยืนยันว่า การดำเนินธุรกิจในภูมิภาคยุโรป ละตินอเมริกา เอเชีย ตะวันออกกลาง และภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก จะเดินหน้าต่อไปอย่างแน่นอน 

          ระหว่างการเข้าสู่กระบวนการของศาล ตั้งแต่วันนี้ จนกระทั่งเสร็จสมบูรณ์สู่จีเอ็ม ใหม่ การดำเนินงานของจีเอ็มจะเดินหน้าตามปกติ ผู้แทนจำหน่ายของจีเอ็มจะให้บริการ และมีการรับประกันอย่างมีคุณภาพเช่นเดิม รัฐบาลสหรัฐฯจะสนับสนุน และยืนยันในการรับประกันที่ครอบคลุมไปตามปกติเพื่อความมั่นใจของลูกค้าทุกคน

          “ช่วงเวลานี้ มีความสำคัญยิ่งที่จีเอ็ม จะปฏิรูปองค์กรให้มีความคล่องตัวมากขึ้น มุ่งเน้นที่ความต้องการของลูกค้ายิ่งขึ้น และมีขีดความสามารถในการแข่งขันมากกว่าเดิม นอกเหนือจากนี้ ยังเป็นบริษัทที่มีผลกำไร” ฟริตซ์ เฮนเดอร์สัน ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของจีเอ็ม กล่าว “วิกฤตเศรษฐกิจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์อย่างมาก แต่ก็ทำให้เรามีโอกาสในการปฏิรูปธุรกิจของเรา เรากำลังลงมือทำสิ่งที่ถูกต้อง การเข้าสู่กระบวนการของศาลนั้นทำให้เรามีช่องทางในการเร่งปฏิรูปองค์กรให้สำเร็จลุล่วงโดยเร็ว พร้อมกับการรักษาลูกค้า และธุรกิจของเราไว้ เรามุ่งเน้นที่งานของเราอย่างเต็มที่ เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้า พนักงาน ผู้แทนจำหน่าย ซัพพลายเออร์ พนักงานเกษียณ ผู้จ่ายภาษีชาวอเมริกัน และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย”

          “เราตระหนักดีว่า ทุกฝ่ายต้องมีการเสียสละเพื่อให้งานการปฏิรูปจีเอ็ม และอุตสาหกรรมยานยนต์บรรลุผล” เฮนเดอร์สัน กล่าว “จีเอ็ม มีความยินดีที่ได้รับการสนับสนุน และความเชื่อมั่นในอนาคตของเราจากคณะทำงานยานยนต์ของกระทรวงการคลังสหรัฐ และรัฐบาลแคนาดา ผู้นำและทีมสหภาพแรงงานยานยนต์ พนักงานของจีเอ็มทุกคน และชาวอเมริกันผู้เสียภาษี ที่จะเกื้อหนุนให้เราเดินหน้าต่อไปเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้จีเอ็ม และเศรษฐกิจ” 

          “นับจากวันนี้ จีเอ็ม ใหม่ จะมีจุดยืนอันหนักแน่นในการสร้างยานยนต์ที่เปี่ยมด้วยคุณภาพซึ่งเราได้เดินหน้าพัฒนาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รวมถึงการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่อันน่าตื่นเต้น อย่างเชฟวี่ โวลต์ เราสามารถสร้างสรรค์และนำเสนอคุณค่าของผลิตภัณฑ์แก่ลูกค้าของเรา รวมถึงทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในความสำเร็จครั้งนี้ จีเอ็ม ใหม่ จะมีบทบาทสำคัญในการสร้างอนาคตของโลกยานยนต์ และทำให้สหรัฐฯ มีความมั่นคงในอุตสาหกรรมการผลิตที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน” 

          “ผู้แทนจำหน่ายของจีเอ็ม ทั่วโลก เดินหน้าดำเนินธุรกิจไปตามปกติ นำเสนอยานยนต์ที่มีคุณภาพ ให้การรับประกันตามมาตรฐานอันยอดเยี่ยมของเรา รวมถึงการให้การบริการที่โดดเด่น” เฮนเดอร์สัน กล่าว “นอกจากนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐ ได้ตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นด้วยการสนับสนุนการรับประกันรถจีเอ็มอย่างเต็มที่” 

          “ผลิตภัณฑ์คืออนาคตของเรา รถยนต์และรถครอสโอเวอร์รุ่นใหม่ของเรานั้น เป็นหมุดหมายแห่งความสำเร็จในอนาคต” เฮนเดอร์สัน กล่าว “จีเอ็ม ใหม่ นั้นมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจในระยะยาว แบรนด์รถยนต์ของเราที่ไม่เป็นสองรองใคร ทำให้เราสามารถแข่งขันในตลาดที่เข้มข้นนี้ได้”

          “จีเอ็ม ใหม่ จะเป็นผู้นำในการพัฒนาเชื้อเพลิงอันมีประสิทธิภาพในระดับโลกในระยะยาว” เฮนเดอร์สัน กล่าว “จีเอ็มใหม่ จะมุ่งมั่นพัฒนาระบบวิศวกรรมอันล้ำหน้า รวมถึงยกระดับประสิทธิภาพการผลิตในสหรัฐฯ ซึ่งมีความสำคัญยิ่งต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในอนาคต”

          สานต่อการพัฒนา ผลิตภัณฑ์ และเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด

          จีเอ็ม ใหม่ ซึ่งมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และมีเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายที่ดีที่สุด จะเดินหน้าพัฒนายานยนต์อันยอดเยี่ยม และจะมีการเปิดตัวในปี 2552 และ 2553 นี้ ได้แก่

          เชฟโรเลต คามาโร รถสปอร์ตคูเป้ดีไซน์โฉบเฉี่ยว มีราคาระดับกลาง อัตราประหยัดเชื้อเพลิงในการวิ่งระยะทางไกลอยู่ที่ 46 กิโลเมตรต่อแกลลอน
          บูอิค ลาครอส รถซีดานขนาดกลางระดับพรีเมียมรุ่นใหม่ล่าสุด
          คาดิลแลค เอสอาร์เอ็กซ์ ครอสโอเวอร์ และซีทีเอส สปอร์ตวากอน
          เชฟวี่ อิควิน็อกซ์ และจีเอ็มซี เทอร์เรน ครอสโอเวอร์ขนาดกลางที่มีอัตราประหยัดน้ำมัน 51 กิโลเมตรต่อแกลลอน ซึ่งดีที่สุดในรถระดับนี้
          เชฟวี่ ครูซ รถคอมแพกต์สายพันธุ์ระดับโลกรุ่นใหม่ของจีเอ็ม
          เชฟวี่ โวลต์ รถพลังงานไฟฟ้าที่สามารถขับเคลื่อนได้สูงสุด 64 กิโลเมตร โดยใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว 

          สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม เข้าชมได้ที่กระบวนการปรับโครงสร้างภายใต้การกำกับดูแลของศาล ที่เวบไซต์ www.GM.com/restructuring

          เกี่ยวกับเจนเนอรัล มอเตอร์ส
          เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น (จีเอ็ม) หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตรถที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2451 ปัจจุบันมีการผลิตรถยนต์และรถปิกอัพใน 34 ประเทศ สำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองดีทรอยท์ โดยมีพนักงาน 234,500 คนในทุกภูมิภาคสำคัญทั่วโลก มีการจำหน่าย และการบริการใน 140 ประเทศ ในปี พ.ศ. 2551 จีเอ็ม มียอดจำหน่ายรถทั้งหมด 8.35 ล้านคัน ภายใต้แบรนด์ชื่อดัง ทั้ง บูอิค คาดิลแลค เชฟโรเลต จีเอ็มซี จีเอ็มแดวู โฮลเดน ฮัมเมอร์ โอเปิล พอนทิแอค ซาบ แซเทิร์น วอกซ์ฮอลล์ และวูลิง ตลาดที่ใหญ่ที่สุดของจีเอ็ม อยู่ในสหรัฐอเมริกา ตามมาด้วยจีน บราซิล สหราชอาณาจักร แคนาดา รัสเซีย และเยอรมนี ขณะที่ออนสตาร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทภายใต้เครือจีเอ็ม ก็ถือเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมความปลอดภัย ความมั่นคง และข้อมูลด้านยานยนต์ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับจีเอ็ม กรุณาเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ www.gm.com

sianbun on June 03, 2009, 06:29:02 PM
จีเอ็ม ประเทศไทย และอาเซียน มั่นใจเต็มร้อย วางแผนเติบโตระยะยาวพร้อมกับ “จีเอ็ม ใหม่”
 
             จีเอ็ม ประเทศไทย และอาเซียน เปิดแถลงข่าวตอกย้ำจุดยืนความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจตามแผนงานต่อไป ยืนยันการเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปองค์กรภายใต้การกำกับดูแลของศาลของจีเอ็ม คอร์ป ในสหรัฐฯ ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อบริษัทลูก เผยเตรียมวางแผนงานมุ่งเติบโตระยะยาวไปพร้อมกับ “จีเอ็ม ใหม่”

          มร. สตีฟ คาร์ไลส์ ประธานกรรมการ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส เซาท์อีสต์เอเชีย โอเปอเรชั่นส์ จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด และมร. อันโนนิโอ ซาร่า รองประธานฝ่ายขาย การตลาด และบริการหลังการขาย บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด แถลงตอกย้ำจุดยืนของจีเอ็ม ประเทศไทย และอาเซียน ที่จะไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ หลังจากเจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ประกาศเร่งปฏิรูปองค์กรผ่านกระบวนการศาลในสหรัฐฯ

          การเข้าสู่กระบวนการศาลของจีเอ็มในสหรัฐฯ ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับจีเอ็ม ที่อยู่นอกสหรัฐฯ และจะไม่ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อการดำเนินงานของจีเอ็ม นอกสหรัฐฯด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ภายใต้ข้อตกลงของการเข้าสู่กระบวนการศาลในสหรัฐฯ ครั้งนี้ ส่วนธุรกิจและแบรนด์ที่แข็งแกร่งและมีผลประกอบการที่ดีของจีเอ็มจะถูกขายไปสู่จีเอ็มใหม่

          “จีเอ็ม เอเชีย แปซิฟิก รวมถึงจีเอ็ม ประเทศไทย และอาเซียน จะดำเนินธุรกิจไปตามปกติ และจะเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญของ ‘จีเอ็ม ใหม่’ อย่างที่ผมเคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า เรามีการดำเนินงานที่เป็นอิสระจากจีเอ็ม คอร์ป เรามีศักยภาพ ทรัพยากร และเทคโนโลยีพร้อมที่จะดำเนินธุรกิจต่อไปด้วยตนเอง” มร. สตีฟ คาร์ไลส์ ประธานกรรมการ จีเอ็ม ประเทศไทย และอาเซียน กล่าว

          มร. สตีฟ คาร์ไลส์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “จีเอ็ม ใหม่ ไม่ใช่ชื่อเรียกอย่างเป็นทางการของบริษัทที่สร้างขึ้นมาจากการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยมที่สุด และแบรนด์ที่แข็งแกร่งที่สุดของจีเอ็ม คอร์ป แต่เป็นเพียงชื่อเรียกในช่วงนี้เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ลูกค้าของจีเอ็ม ประเทศไทย สามารถเชื่อมั่นได้ในรถยนต์ รถกระบะ การบริการ รวมถึงการรับประกันได้ตามปกติ ขณะที่พนักงาน และซัพพลายเออร์ของจีเอ็ม ประเทศไทย ก็จะได้รับเงินเดือน และค่าตอบแทนตามปกติ”

          ประธานกรรมการ จีเอ็ม ประเทศไทย ยืนยันว่า เป้าหมายของจีเอ็ม ประเทศไทย คือการเติบโตในระยะยาวในไทย และในภูมิภาคอาเซียน พร้อมชี้ว่า การเติบโตอย่างต่อเนื่องของจีเอ็ม เอเชีย แปซิฟิก คือตัวอย่างสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพการดำเนินงานในภูมิภาคนี้ของจีเอ็ม

          “ถึงแม้จะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ แต่จีเอ็ม เอเชีย แปซิฟิก ก็มีอัตราเติบโตอย่างน่าทึ่งในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ และยังมีแนวโน้มว่าจะขยายตัวอย่างต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี”

          นอกจากมุ่งเน้นที่การเติบโตทางธุรกิจแล้ว จีเอ็ม ประเทศไทย ยังให้ความสำคัญในการเป็นผู้นำในการพัฒนาพลังงานทางเลือก เทคโนโลยีเครื่องยนต์ และพลังขับเคลื่อนอันก้าวล้ำอนาคต”

          “เราจะเดินหน้านำเสนอผลิตภัณฑ์ที่สมบูรณ์แบบซึ่งสะท้อนถึงเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในโลกยานยนต์ อย่างรถสายพันธ์ระดับโลก เชฟโรเลต ครูซ นอกจากนี้ เราจะยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมยานยนต์ในภูมิภาคอาเซียน” มร.สตีฟ คาร์ไลส์ กล่าว “แผนงานของเรา ทั้ง การพัฒนาพลังงานทางเลือก เทคโนโลยีอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ยังคงดำเนินต่อไป รวมถึง รถยนต์เชฟโรเลต โวลต์ จะไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด และจะเป็นไปตามแผนการเดิมทุกประการ”

          ตามคำกล่าวของ มร.สตีฟ คาร์ไลส์ และมร. อันโตนิโอ ซาร่า ถือว่ามีความสำคัญที่ผู้ที่เกี่ยวข้องกับจีเอ็ม นอกสหรัฐฯ ควรมีความเข้าใจอย่างถูกต้องในกฎหมายล้มละลาย Chapter 11 ของสหรัฐฯว่า ไม่ได้หมายถึง บริษัทฯจะต้องชำระบัญชี หรือจะต้องปิดกิจการ แต่ภายใต้ Chapter 11 บริษัทยังคงดำเนินธุรกิจไปตามปกติ และบริหารงานโดยทีมผู้บริหารของจีเอ็ม ถึงแม้ว่ากฎหมายข้อนี้จะไม่มีในหลายประเทศ แต่ถือว่ามีความสำคัญมากในสหรัฐฯ โดยที่ผ่านมา มีบริษัทอเมริกันหลายแห่งที่ประสบความสำเร็จหลังจากเข้าสู่กระบวนการ chapter 11

          มร. อันโตนิโอ ซาร่า กล่าวว่า “เราจะให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับแรก และเราจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมกับจีเอ็ม เราดูแลลูกค้าของเราเสมอ พร้อมกับพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเราอย่างเต็มที่ และเราจะมุ่งมั่นเช่นนี้ต่อไป”

          “ลูกค้าของจีเอ็ม ประเทศไทย สามารถเชื่อมั่นได้ในการรับประกัน และการบริการได้ดังเดิม เราจะพัฒนาการบริการหลังการขายอย่างต่อเนื่อง หากคุณครอบครองรถเชฟโรเลต หรือกำลังจะซื้อรถเชฟโรเลตสักคัน คุณตัดสินใจถูกต้องแล้ว หลังจากนี้ เราจะเปิดตัวแคมเปญพิเศษเพื่อกระตุ้นการจำหน่าย การบริการหลังการขาย และความเชื่อมั่นของลูกค้าโดยเฉพาะ” มร.อันโตนิโอ ซาร่า กล่าวย้ำ “เชฟโรเลต ยังคงเป็นแบรนด์หลักของบริษัทฯในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน”

          ภาพรวมการปฏิรูปองค์กรของจีเอ็ม
          เมื่อวานนี้ เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ได้บรรลุข้อตกลงกับกระทรวงการคลังสหรัฐ รัฐบาลแคนาดา และออนตาริโอ นำไปสู่การสร้างสรรค์จีเอ็ม ใหม่ ที่มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น คล่องตัวมากกว่าเดิม มีผลกำไร พึ่งพาตนเองได้ และมีขีดความสามารถในการแข่งขันในอนาคต ซึ่งข้อตกลงนี้ จะต้องได้รับการอนุมัติผ่านกระบวนการศาลภายใต้ข้อกฎหมายล้มละลาย Chapter 11 ของสหรัฐฯ

          ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าวนี้ บริษัทใหม่ซึ่งผนวกการดำเนินงาน และแบรนด์ที่ได้รับการคัดสรรจากทั่วโลก จะได้รับการเปิดตัว “จีเอ็ม ใหม่” จะได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นมาจากการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยม และแบรนด์ที่แข็งแกร่งที่สุดของจีเอ็ม โดยจีเอ็ม ใหม่ จะเดินหน้าพัฒนารถยนต์ และรถกระบะ ที่ยอดเยี่ยมต่อไป พร้อมกับการเป็นผู้นำในการพัฒนาการใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม คุณภาพ ความน่าเชื่อถือ การออกแบบที่โดดเด่น การบริการลูกค้า และเหนือสิ่งอื่นใด คือคุณค่าในตัวผลิตภัณฑ์ของเรา
 
          จีเอ็ม คอร์ป จะจำหน่ายทรัพย์สินทั้งหมดไปสู่ “จีเอ็ม ใหม่” ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงการคลังของสหรัฐ สหภาพแรงงานยานยนต์ และผู้ถือหุ้นที่ไม่มีการค่ำประกันของจีเอ็ม โดยจะดำเนินการบริหารโดยทีมผู้บริหารของจีเอ็มชุดปัจจุบัน คาดการณ์ว่า จีเอ็ม ใหม่ จะเปิดตัวออกสู่สาธารณชนในฐานะของบริษัทที่เป็นอิสระและไม่เกี่ยวข้องกับจีเอ็ม ในปัจจุบัน ภายในเวลาประมาณ 60 ถึง 90 วัน

          “วันนี้ ถือเป็นช่วงเวลาที่มีความสำคัญยิ่งในการปฏิรูปจีเอ็ม ให้มีความคล่องตัวยิ่งขึ้น มุ่งเน้นความต้องการของลูกค้ามากกว่าเดิม และมีโครงสร้างต้นทุนที่สามารถแข่งขันได้ในระยะยาว นอกจากนี้ ยังสามารถสร้างผลกำไรได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย” มร. ฟริตซ์ เฮนเดอร์สัน ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของจีเอ็ม กล่าว “วิกฤตเศรษฐกิจส่งผลกระทบอย่างมากต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ แต่ก็สร้างโอกาสสำคัญให้เราปฏิรูปธุรกิจของเราในอีก 100 ปีข้างหน้า เราเดินมาถูกทางแล้ว และจะเร่งเดินหน้าต่อไปอย่างเต็มที่”

          “การเข้าสู่กระบวนการของศาล สร้างช่องทางที่มีความสำคัญให้เราเร่งการปฏิรูปให้สำเร็จโดยเร็ว พร้อมกับการรักษาลูกค้าและธุรกิจของเรา ผลิตภัณฑ์คืออนาคตของเรา รถยนต์และรถครอสโอเวอร์รุ่นใหม่ เป็นหมุดหมายแห่งความสำเร็จ จีเอ็ม ใหม่จะยังคงเป็นผู้นำในการพัฒนาการใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ และยานยนต์ที่มีเทคโนโลยีล้ำหน้าที่สุด อย่าง เชฟโรเลต โวลต์ ยานยนต์พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ก็จะเปิดตัวในประเทศจีน ในปี 2554”

          สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมของกระบวนการปรับโครงสร้างภายใต้การกำกับดูแลของศาลของจีเอ็ม สามารถชมได้ที่เวบไซต์ www.new-gm.com/thailand-asean ซึ่งมีภาษาไทยและภาษาอังกฤษให้เลือกอ่าน

          เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น (จีเอ็ม) หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตรถที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2451 ปัจจุบันมีการผลิตรถยนต์และรถปิกอัพใน 34 ประเทศ สำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองดีทรอยท์ โดยมีพนักงาน 235,000 คนในทุกภูมิภาคสำคัญทั่วโลก มีการจำหน่าย และการบริการใน 140 ประเทศ ในปี พ.ศ. 2551 จีเอ็ม มียอดจำหน่ายรถทั้งหมด 8.35 ล้านคัน ภายใต้แบรนด์ชื่อดัง ทั้ง บูอิค คาดิลแลค เชฟโรเลต จีเอ็มซี จีเอ็มแดวู โฮลเดน ฮัมเมอร์ โอเปิล พอนทิแอค ซาบ แซเทิร์น วอกซ์ฮอลล์ และวูลิง ตลาดที่ใหญ่ที่สุดของจีเอ็ม อยู่ในสหรัฐอเมริกา ตามมาด้วยจีน บราซิล สหราชอาณาจักร แคนาดา รัสเซีย และเยอรมนี ขณะที่ออนสตาร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทภายใต้เครือจีเอ็ม ก็ถือเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมความปลอดภัย ความมั่นคง และข้อมูลด้านยานยนต์ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับจีเอ็ม กรุณาเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ www.gm.com