Company Profile: Piaggio Group
ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1884 โดย รินัลโด้ ปิอาจิโอ สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองปอนเตเดร่า (ปิซ่า ประเทศอิตาลี) Piaggio Group คือหนึ่งใน ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ชั้นนำของโลก
บริษัทจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์มิลาน เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2006 ภายใต้การดูแลของ Immsi S.p.a. บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นมิลาน บริหารงานโดย โรแบร์โต้ คอลานินโน่ ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานและผู้บริหารสูงสุดของ Piaggio Group รองประธานฯ ได้แก่ มัตเตโอ คอลานินโน่ และ มิเชบ ปาลลอตตินี่ ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่การเงินและบัญชี
กลุ่มบริษัท Piaggio Group ยังรวมถึง Aprilia และ Moto Guzzi ควบรวมเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2004 และ Derbi ของสเปน เมื่อปี 2001 ถือเป็นหนึ่งใน สี่บริษัทชั้นนำของโลก ในธุรกิจที่ดำเนินงาน เช่นเดียวกับ ตำแหน่งผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์ของยุโรป; ศูนย์วิจัยและพัฒนา 5 แห่ง; พนักงานกว่า 7,000 คน
กระบวนการ ผลิต ดำเนินการกันที่ โรงงาน ใน: ปอนเตเดร่า (ปิซ่า) สำหรับรถจักรยานยนต์ภายใต้ตราสัญลักษณ์ Piaggio, Vespa และ Gilera, พาหนะขนส่งขนาดเล็ก (LTV: Light Transport Vehicle) สำหรับตลาดยุโรป และเครื่องยนต์สกูเตอร์และมอเตอร์ไซค์; สโคเช่ (เวนีส) รถจักรยานยนต์แบรนด์ Aprilia และ Scarabeo; มันเดลโล่ เดล ลาริโอ (เลกโก) เครื่องยนต์และรถ Moto Guzzi; บาร์เซโลน่า (สเปน) รถ Derbi; บารามาติ (รัฐมหาราษฏระ ประเทศอินเดีย) รถ LTV สามล้อและสี่ล้อขายตลาดภายใน; วินห์ ฟุก (เวียดนาม) รถสกูเตอร์ Vespa สำหรับตลาดภายในและภูมิภาคอาเซียน นอกจากนี้ทาง Piaggio Group ยังได้ทำข้อตกลง ร่วมทุนกับบริษัทในจีน (เมืองฝอชาน มณฑลกวางตง) โดย Piaggio ถือหุ้น 45% และผลประกอบการไม่รวมอยู่ในส่วนของทางกลุ่มฯ
ผลิตภัณฑ์ ของ Piaggio Group ประกอบด้วย รถสกูเตอร์, มอเตอร์ไซค์ และ จักยานยนต์ขนาดเล็ก ขนาดความจุเครื่องยนต์ 50 ถึง 1200 ซีซี ภายใต้แบรนด์ Piaggio, Vespa, Gilera, Aprilia, Moto Guzzi, Derbi และ Scarabeo นอกจากนี้ทางกลุ่มยังมีการผลิต พาหนะขนส่งน้ำหนักเบาสามและสี่ล้อเพื่อการพาณิชย์ ภายใต้แบรนด์ Ape, Porter และ Quargo
ในปี 2008 บริษัท Piaggio Group ได้ส่งออกรถ 648,600 คัน ไปทั่วโลก (สกูเตอร์, มอเตอร์ไซค์ และพาหนะสาม/สี่ล้อ) คิดเป็น 470,500 คัน ในส่วนของจักรยานยนต์สองล้อ และ 178,100 คัน ในส่วนของรถเพื่อการพาณิชย์ รวมยอดตัวเลขจากบริษัท Piaggio Group Americas ซึ่งประสบความสำเร็จในการเพิ่มยอดขาย 28.7% (31,600 คัน ในปี 2008) เช่นเดียวกับยอดผลประกอบการ 19.8% (95.0 ล้านยูโร ในปี 2008) โดยหลักเป็นยอดขายจากรถ Vespa ซึ่งคงปริมาณการจำหน่ายทั่วโลกในปี 2008 สูงถึง 100,000 คัน ส่วนในตลาด รถเพื่อการพาณิชย์ ทางกลุ่มก็สวนกระแสแนวโน้มความต้องการที่ลดต่ำในยุโรปและอินเดีย ด้วยยอดขายที่โตขึ้น +3.8% และ +2.5% ตามลำดับ
ในปี 2008 Piaggio Group ทำยอดขายรวมสุทธิได้ 1,570.1 ล้านยูโร กำไรก่อนหักดอกเบี้ย, ภาษี, ค่าเสื่อมราคาและค่าจัดจำหน่าย (EBITDA) 189.1 ล้านยูโร; กำไรจากการดำเนินงาน 94.5 ล้าน
ยูโร; กำไรก่อนหักภาษี 59.6 ล้านยูโร และ กำไรสุทธิ ในปี 2008 43.3 ล้านยูโร
รายจ่ายลงทุนในปี 2008 อยู่ที่ 102.9 ล้านยูโร รวม 25.3 ล้านยูโร สำหรับโครงการอุตสาหกรรมใหม่ใน เวียดนาม และ อินเดีย เช่นเดียวกับโครงการด้านการลงทุน เพื่อสนับสนุนกระบวนการผลิตและดำเนินการค้าใน ภูมิภาคหลักๆ ของโลก ไม่ว่าจะเป็นการสร้างโรงงานผลิตรถ Vespa ใน เวียดนาม, โรงงานผลิตเครื่องยนต์แห่งใหม่ ที่เมืองบารามาติใน อินเดีย ภายใต้การกำกับดูแลของ Piaggio Vehicles Private Limited: บริษัทสาขา ซึ่งดำเนินการผลิตรถสามล้อ Ape และรถสี่ล้อ Ape Truk ด้วยยอดการผลิตต่อปีสูงกว่า 150,000 คัน ไม่นับเครื่องยนต์ดีเซลและเทอร์โบดีเซลขนาด 1,000 และ 1,200 ซีซี สำหรับพาหนะเพื่อการพาณิชย์
ในปี 2008 บริษัท Piaggio Group ยังได้ลงทุนไปกับการผลิตรถสกูเตอร์และมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ โดยเน้นหนักไปที่ นวัตกรรมด้านเทคโนโลยี และ เครื่องยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่ช่วยประหยัดน้ำมันและลดการก่อมลพิษ เช่นเดียวกับการเปิดตัวโมเดลรถ LTV รุ่นใหม่ๆ ซึ่งล้วนแต่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
ใน การแข่งขันรถ, 2008 ถือเป็นปีที่ยิ่งใหญ่สำหรับ Piaggio Group ด้วยตำแหน่ง แชมป์โลกเวิล์ดสปีดสี่รางวัล (ทั้งนักขับและผู้สร้าง) ในรุ่น 250 และ 125 ซีซี จากสามแบรนด์ดัง Aprilia, Gilera และ Derbi เช่นเดียวกับ แชมป์โลกทีมผู้สร้าง Supermoto S1 กับรถ RSV4 รุ่นใหม่ ของ Aprilia ในประเภทซูเปอร์ไบค์สมรรถนะสูง; ภายใต้การขับโดย แม็กซ์ เบียจจี้ และ ชินญ่า นากาโน่