happy on November 03, 2022, 11:42:57 PM
เปิดตัว มาสเก็ต คอมมูนิเคชั่นส์
เดินหน้าสร้างแบรนด์ให้ธุรกิจอย่างตรงเป้า ด้วยการตลาดดิจิทัลบาลานซ์ในปี 2023


               3 พฤศจิกายน 2565, กรุงเทพฯ – มาสเก็ต คอมมูนิเคชั่นส์ เดินหน้าปฏิวัติวงการ InnoCreative Agency ชูจุดยืนและความเชื่อของบริษัทภายใต้คอนเซปต์ MOVE US FORWARD ด้วยเป้าหมายพาธุรกิจไทยก้าวไปอีกขั้น ผ่านการสร้างความแตกต่างด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ตอบโจทย์การสื่อสารและการขาย ผนวกกับไอเดียสร้างสรรค์ที่ตรงใจผู้บริโภค


               นางสาวลิษา เลาหกรวัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเก็ต คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด​ เปิดเผยว่า “ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย ที่มาสเก็ต คอมมูนิเคชั่นส์ เรามีความเชื่อว่าทุกครั้งที่เกิดคลื่นลูกใหม่ในโลก นับตั้งแต่ยุคเก่าจนมาสู่ยุค Web 3.0 ในปัจจุบัน มักเกิดขึ้นได้เมื่อมี 2 สิ่งมาบรรจบกัน คือ Technology และ Creativity โดยเห็นได้จากในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เราได้ใช้ประโยชน์จากธุรกิจที่พัฒนาต่อเนื่องด้วยเทคโนโลยี เช่น แอปพลิเคชันปรึกษาแพทย์และจ่ายยาโดยเภสัชกรที่จัดส่งด้วยบริการเดลิเวอรี่, คอร์สเรียนออนไลน์และปรึกษาได้ 24 ชั่วโมง, การสั่งอาหารและซื้อของสดผ่านแอปพลิเคชัน สามารถเพิ่มโอกาสให้กับธุรกิจและสร้างแบรนด์ให้แตกต่างได้ด้วยเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง


               โดยในปี 2023 เรามองว่าเรื่องเทคโนโลยีจะยังคงมีความสำคัญอยู่ แต่จะเกิดสมดุลมากขึ้น และเมื่อสถานการณ์โควิดซาลง ผู้คนมีความโหยหา Tangible Experience หรือประสบการณ์จริง แต่ก็ยังเห็นประโยชน์จากเทคโนโลยีที่ทำให้ชีวิตคล่องตัว เช่น การทำงานหลังจากนี้จะเป็นรูปแบบของไฮบริดที่สามารถมาเจอกันตัวต่อตัวหรือผ่านทางแพลตฟอร์มประชุมออนไลน์ก็ได้ ถือเป็นวิถีชีวิตแบบ Balancing with Technology โดยเทคโนโลยีจะไม่ใด้เข้ามาแทนที่ แต่เป็นการเข้ามาเพื่อทำให้การใช้ชีวิตสะดวกสบายและไร้พรมแดน”


               สำหรับทิศทางและแนวโน้มการตลาดในปี 2023 ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งถือเป็นยุคแห่งการฟื้นฟู บาลานซ์ และพร้อมเสมอกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โดยคาดว่าจะเกิดสมดุล ดังนี้


               1.​ Technology for better lives

               เทคโนโลยีจะมาช่วยตอบโจทย์การขายสินค้าได้สะดวก รวดเร็วขึ้น โดยมี AI รับหน้าที่จัดการข้อมูลอย่างแม่นยำ และ AR เข้ามาหลอมรวมโลกจริงและโลกเสมือนจริงไว้ด้วยกัน โดยในปี 2023 นี้ เราจะเห็นธุรกิจเข้ามาลงทุนเพื่อทำให้เทคโนโลยี AI และ AR เข้ามาทำให้การใช้ชีวิตง่ายขึ้นและลดต้นทุน เช่น AI แปลภาษาอัตโนมัติอย่างรวดเร็วและพูดทุกภาษาได้โดยมี Virtual Human เพื่อรองรับการเกิดขึ้นของเศรษฐกิจแบบ D2A หรือ Direct-to Avatar ที่หมายถึงการให้บริการพื้นที่ สินค้า และประสบการณ์เสมือนจริงกับลูกค้าเสมือนได้คุยกับคน อาทิเช่น ผู้บริโภคสามารถไปช้อปปิ้งที่ห้างแล้วมี AI Personal Shopping Assistant ช่วยให้คำแนะนำในมือถือ

               ทั้งนี้ ในปีหน้าเทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทในธุรกิจออนไลน์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น Facebook, Instagram และ TikTok โดยผู้บริโภคสามารถนำสินค้ามาทาบกับตัวเองผ่านเทคโนโลยี AR เช่น เสื้อผ้า แว่นกันแดด เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ จากนั้นจึงกดเข้าไปซื้อในอีคอมเมิร์ซได้ทันที โดยเทคโนโลยีเหล่านี้จะเข้ามาช่วยในการตัดสินใจ พร้อมสร้างประสบการณ์การซื้อของบนโลกออนไลน์ได้แบบสมจริงและสนุกยิ่งขึ้น

               2.​ Integrated Channel Experience

               ออนไลน์จะยังคงมีความสำคัญเพราะผู้บริโภคจะตัดสินใจซื้อสินค้าผ่านประสบการณ์ที่ได้รับจากทั้งออนไลน์และออฟไลน์ โดยธุรกิจที่ขาย Essential products คือ สินค้าที่จำเป็นในการใช้ชีวิตประจำวัน อาทิเช่น สบู่ น้ำหอม ของสด จะเกิดการมองเห็นจากป้ายโฆษณาและโฆษณาออนไลน์ แล้วหาขอมูลต่อบนออนไลน์ แต่เกิดการซื้อเมื่อมาที่ร้านค้า ในขณะที่สินค้า Non-Essential products คือ สินค้าที่อาจไม่จำเป็นมากนัก แต่ตัดสินใจได้ง่าย อาทิเช่น สินค้าแฟชั่น ของเล่นเด็ก จะเกิดจากการเห็นออนไลน์ ทั้งโฆษณาและรีวิว แล้วสามารถตัดสินใจเลือกซื้อออนไลน์ได้ง่าย เมื่อได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษหรือโปรโมชั่น

               3.​ Community drives business

               ปัจจุบันความสนใจของผู้บริโภคมีความหลากหลาย ธุรกิจจะมีความสามารถในการเข้าใจกลุ่มเป้าหมายได้อย่างลึกซึ้งด้วยการใช้เทคโนโลยีในการฟังเสียงในโซเชียลและการเก็บดาต้า เมื่อเข้าใจแล้วสามารถสร้างสรรค์ผลงานที่ตอบโจทย์ จะทำให้กลุ่มเป้าหมาย 20% กลายเป็นลูกค้าประจำและเกิดการบอกต่อเพื่อนและคนใกล้ชิด ปัจจุบันความน่าเชื่อถืออยู่ที่ Influencer และ Community ที่ทำให้ผู้บริโภครู้สึกไว้วางใจนั้นเอง


               ปัจจุบัน​ มาสเก็ต คอมมูนิเคชั่นส์​ มีลูกค้ากว่า 80% ในพอร์ทที่ทำงานด้วยกันมากกว่า 3 ปี โดยเราได้ให้ความสำคัญกับการเข้าใจองค์กรลูกค้า ผลิตภัณฑ์ รวมถึงผู้บริโภค โดยกลุ่มลูกค้าและพาร์ทเนอร์ที่ไว้วางใจเข้ามาใช้บริการของ มาสเก็ต คอมมูนิเคชั่นส์ มีหลากหลายกว่า 100 ราย ตั้งแต่กลุ่มธุรกิจอะไหล่และรถยนต์, ผลิตภัณฑ์ด้านเภสัชกรรม, ธุรกิจค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์, ธุรกิจด้านความงาม, สินค้าอุปโภค บริโภค, ธุรกิจด้านการสื่อสารและการประชาสัมพันธ์, กลุ่มธุรกิจสตีมมิ่งทีวี ตลอดจนองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร จากความเชี่ยวชาญพร้อมด้วยบริการอันหลากหลายที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

               “มาสเก็ต คอมมูนิเคชั่นส์ (Masket Communications) มุ่งมั่นที่จะพัฒนาบริการต่างๆ ในอนาคต พร้อมสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้รองรับการทำงานที่ตอบโจทย์ธุรกิจ โดยเราตั้งใจที่จะนำพาเทคโนโลยีและไอเดียสดใหม่ ด้วยพลังความมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนเรื่องการสื่อสารและการตลาดที่แตกต่าง พร้อมนำพาแบรนด์และทีมงานไปข้างหน้าอยู่เสมอ” นางสาวลิษา กล่าวทิ้งท้าย

               ผู้ที่สนใจหรือต้องการรับบริการ สามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.masketcommunications.com คลิกที่ลิงก์ https://bit.ly/PRMasketR1 และทางเฟซบุ๊ก Masket Communications: https://bit.ly/PRMasketFB1 หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.085-990-5669, 086-375-0581

               โดยมาสเก็ต คอมมูนิเคชั่นส์ มีการบริการหลายรูปแบบ ตั้งแต่การนำเทคโนโลยีมาใช้ในงานโฆษณา วางแผนกลยุทธ์ทางการสื่อสารการตลาด ตลอดจนการผลิตสื่อ เพื่อตอบโจทย์ทางธุรกิจได้ตรงเป้าและเป็นทางเลือกสำหรับนักการตลาดยุคใหม่ได้อย่างแท้จริง

###

เกี่ยวกับ บริษัท มาสเก็ต คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด

Masket Communications มาสเก็ต คอมมูนิเคชั่นส์ เอเยนซี่โฆษณา ที่มีความเชื่อเรื่องการ MOVE US FORWARD พร้อมก้าวไปอีกขั้นร่วมกับนักการตลาดและเจ้าของธุรกิจอยู่เสมอ ผ่านบริการด้านการสื่อสารการตลาดอย่างครอบคลุม ตั้งแต่การนำเทคโนโลยีมาผนวกกับงานโฆษณาที่จะสร้างความสดใหม่และตอบโจทย์ รวมถึงการวางแผนกลยุทธ์การสื่อสารการตลาด ตลอดจนการผลิตสื่อหลากหลายรูปแบบ สร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจได้อย่างตรงเป้า