“ยูเนี่ยนแพน” รุกจัดงาน Home & Furniture Fair รับเปิดประเทศ
เชื่อกำลังซื้อฟื้นตัว ผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่น ดันเม็ดเงินสะพัด 150 ล้านบาท
ยูเนี่ยนแพนฯ ปรับแผนสู้วิกฤติโควิด-19 ขยายไลน์ 2 ธุรกิจหวังต่อยอดและพร้อมเปิดให้บริการในอนาคต ล่าสุดขานรับนโยบายเปิดประเทศ-ไฟเขียวจัดงานจัดแสดงสินค้า ประกาศจัดงาน “Home & Furniture Fair” ระหว่างวันที่ 13-21 พฤศจิกายน 2564 ณ ไบเทค บางนา Hall 100-101 บนพื้นที่ 12,000 ตารางเมตร มีผู้ประกอบการร่วมงานประมาณ 120-150 บริษัท ประกอบด้วย 3 งานหลัก ได้แก่ โฮม แอนด์ เฟอร์นิเจอร์ แฟร์,เพาเวอร์บาย อิเล็กทรอนิกส์ แฟร์ และ เวดดิ้ง แฟร์ เชื่อกำลังซื้อฟื้นตัว ผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่น กวาดเม็ดเงินสะพัด 150 ล้านบาท นางวชิรา จิตศักดานนท์ กรรมการบริหาร บริษัท ยูเนี่ยนแพน เอ๊กซิบิชั่นส์ จำกัด ผู้นำในการจัดงานแสดงสินค้า เปิดเผย ว่า จากวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบต่อการจัดแสดงสินค้าทั้งในรูปแบบ Business-to-Business (B2B) ซึ่งไม่สามารถจัดงานได้เลย และ Business-to-Customer (B2C) ที่ยังพอจัดได้บ้าง แต่ไม่มากนัก โดยภาพรวมทำให้ภาพรวมการจัดงานแสดงสินค้าลดลงไป 70% ซึ่งกลุ่ม B2C ผู้ประกอบการจะปรับตัวด้วยการร่วมกับออแกไนเซอร์กระจายการจัดงานตามห้างสรรพสินค้า และศูนย์การค้าแทน สำหรับยูเนี่ยนแพนฯ นั้นที่ผ่านมามีการปรับตัว ด้วยการขยายไลน์เพิ่มอีก 2 ธุรกิจ เพื่อต่อยอดจากธุรกิจหลักของบริษัทฯ คือ บริษัท ยู.พี. เรียลเอสเตท จำกัด ดำเนินธุรกิจเป็นที่ปรึกษาในด้านธุรกิจอสังหาฯ เพราะที่ผ่านมามองว่าที่ผ่านมาอสังหาฯ ได้รับผลกระทบมากจากวิกฤติโควิด-19 และบริษัท วี.เจ. อินเตอร์ แฟร์ จำกัด ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับบริการและขายสินค้าเกี่ยวกับสุขภาพ และ Wellness เพราะมองว่าหลังวิกฤติโควิด-19 คลี่คลาย ธุรกิจดังกล่าวจะเป็นเทรนด์ของโลกที่ทุกคนจะให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น ซึ่งทั้ง 2 บริษัทดังกล่าว ก่อตั้งมาเมื่อประมาณเดือนมิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการเตรียมการเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ และพร้อมที่จะเปิดให้บริการได้ในเร็วๆ นี้ นางวชิรา กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้านนโยบายการเปิดประเทศของรัฐบาล ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา มองว่าจะช่วยกระตุ้นความมั่นใจ ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ เพราะเป็นการเปิดรับนักท่องเที่ยว กำลังซื้อ เข้าสู่ตลาด ทำให้มีเม็ดเงินใหม่เข้ามาในตลาดมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจในประเทศมีทิศทางในเชิงบวกมากขึ้นด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามจากการที่รัฐบาล, สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. (Thailand Convention & Exhibition Bureau : TCEB) และกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ประกาศให้ศูนย์การจัดแสดงสินค้า และผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจจัดแสดงสินค้า สามารถจัดงานได้หลังรัฐบาลประกาศเปิดประเทศ บริษัทฯ จึงได้ตอบรับนโยบายรัฐด้วยการจัดงานแรก หลังคลายล็อกดาวน์ ด้วยการจัดงาน “Home & Furniture Fair” ซึ่งถือเป็นการจัดงานแสดงสินค้างานแรกในกรุงเทพฯ หลังประกาศเปิดประเทศ โดยงานดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-21 พฤศจิกายน 2564 ณ ไบเทค บางนา Hall 100-101 ใช้พื้นที่ในการจัดงาน 12,000 ตารางเมตร มีผู้ประกอบการร่วมงานประมาณ 120-150 บริษัท โดยประกอบด้วย 3 งานหลัก ประกอบด้วย 1. งาน Home & Furinture Fair ซึ่งเป็นการกลับมาในรอบ 7 เดือนของการจัดงาน มีผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ วัสดุก่อสร้างในการตกแต่งบ้านครบวงจร ซึ่งมีทั้งสินค้าที่ผลิตเองในประเทศไทย และส่งออกนอกประเทศ อาทิ เฟอร์นิเจอร์ชุดรับแขก, ชุดรับประทานอาหาร, ชุดห้องครัว, ชุดห้องนอน, ชุดสนามฯลฯ ซึ่งมีการนำมาจัดโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม มากมาย 2. งาน PowerBuy Electronics Fair เป็นการรวมตัวแบรนด์ชั้นนำที่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าครบทุกแบรนด์ ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน อุปกรณ์ไอที เครื่องมือสื่อสาร นำทัพด้วยสินค้าจากเพาวเวอร์บาย โดยมีสินค้าให้เลือกกว่า 1,000 ชิ้น ซึ่งมีโปรโมชั่นมากมาย ทั้งมอบคูปองส่วนลด บัตรของขวัญ อีกทั้งยังร่วมกับบัตรเครดิต สถาบันการเงินต่างๆ ผ่อน 0% นาน 36 เดือน และผู้ที่ใช้จ่ายเงินสูงสุดในงาน 20 รายแรก จะได้รับบัตรของขวัญจากเซ็นทรัล มูลค่ารวม 500,000 บาท 3. งาน Wedding Fair เป็นการกลับมาอีกครั้ง เพื่อช่วยฟื้นฟูธุรกิจงานแต่งงาน โดยเป็นการรวมตัวของผู้ให้บริการเกี่ยวกับงานแต่งงานแบบครบวงจร มาให้คู่รัก หรือผู้ที่กำลังวางแผนแต่งงาน ได้เลือกใช้บริการ รูปแบบ One Stop Service อาทิ ธุรกิจชุดวิวาห์ ธุรกิจของชำร่วย บริการด้านถ่ายภาพ ออแกไนซ์ และสถานที่จัดงานแต่งงาน โดยมีผู้ประกอบการที่มีชื่อเสียง และมีประสบการณ์ด้านนี้เข้าร่วมงาน ได้แก่ คลาสสิค สตูดิโอ, อิมเมจิ้น สตูดิโอ, ฟินาเล่ เวดดิ้ง สตูดิโอ, เดอะโมเม้น, เฌอติน ไบรดอล และเคนนี่ เดอลามัวร์ มาพร้อมกับแพ็คเกจ ลด แลก แจก แถม ในราคาพิเศษ เพื่อตอบโจทย์ผู้ที่กำลังวางแผนจะแต่งงานในปลายปี 2564 นี้หรือปี 2565 “คิดว่ากำลังซื้อจะกลับมามาก แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามมาตรการ “Covid Free Setting” โดยในงานสามารถมีผู้ประกอบการและผู้ชมงานได้ 1,600 ราย/รอบ (รอบละ 2 ชั่วโมง) คาดว่าในงานนี้จะมีเม็ดเงินสะพัดประมาณ 150 ล้านบาท” นางวชิรา กล่าวทิ้งท้าย