happy on November 10, 2021, 09:20:17 PM
ฟังเสียงผู้ประกอบการส่งออกอาหารไทยสำเร็จรูป
ตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ทำไมต้องมี?

แม้ปีนี้ด้วยสถานการณ์โควิด-19 จะทำให้กิจกรรมการขอรับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT (ไทย ซีเล็คท์) ถูกเลื่อนออกไปเป็นปีหน้า แต่ผู้ประกอบการสินค้าอาหารไทยสำเร็จรูปหลายแบรนด์ก็ยังตั้งตารอที่จะสมัครเพื่อให้ได้รับตราสัญลักษณ์ เพราะข้อดีหลายๆ ด้านที่จะได้รับนั้น คุ้มค่ากับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ดังเช่นที่ผู้ส่งออกแบรนด์ดังเหล่านี้ที่ยังคงยื่นขอรับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ต่อเนื่องในทุกปี


                  นายอุฬาร  อภิรูปากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพ็นต้า อิมเพ็กซ์ จำกัด กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ของธุรกิจแบ่งเป็น 5 กลุ่มหลัก คือ เครื่องปรุงรสและซอส ผักและผลไม้ในน้ำเกลือ สินค้าอาหารแช่แข็ง สินค้าสเตอรีไรด์ และกลุ่มสุดท้ายคือผงปรุงรสและเครื่องเทศ รวมประมาณ 800 รายการ โดยเน้นการส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศมากกว่า 95% ภายใต้แบรนด์ต่างๆ อาทิ​ เพ็นต้า, ไทยบอย, White Elephant และแม่พิม มีตลาดหลักอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ลูกค้าคือผู้นำเข้าเพื่อไปจัดหน่ายภายในประเทศผ่านช่องทางต่างๆ


                  “เริ่มขอรับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ตั้งแต่ปี 2555 เพราะในเวลานั้นเห็นว่าเงื่อนไขที่คณะกรรมการจะพิจารณาให้คะแนน คือ รสชาติอาหารที่ต้องเป็นไทยแท้ คุณภาพของผลิตภัณฑ์ และมาตรฐานการผลิต ซึ่งเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดี อย่างน้อยถ้าผลิตภัณฑ์ของเรามีตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ผู้บริโภคก็จะรู้ว่าเราผ่านหลักเกณฑ์เบื้องต้นทั้ง 3 ด้าน ปัจจุบันบริษัทมีผลิตภัณฑ์อยู่ 26 รายการที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT โดยเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์แกงสำเร็จรูป เครื่องปรุงรส และขนมไทยแช่แข็ง อาทิ แกงเขียวหวาน แกงส้มพร้อมปรุง น้ำพริกกะปิ ข้าวเหนียวทุเรียนแช่แข็ง และข้าวต้มมัดกล้วยแช่แข็ง เป็นต้น


                  ประโยชน์ของการมีตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ที่เห็นได้ชัดเจนคือ เรื่องความน่าเชื่อถือ เพราะเมื่อกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ทำการประชาสัมพันธ์ในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นโปรโมชั่นในร้านค้าหรือซูเปอร์มาร์เก็ต (Instore Promotion) หรือการร่วมกับผู้นำเข้าที่นำเข้าสินค้าที่มีตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ไปจำหน่าย จะทำให้ผู้บริโภครู้จักผลิตภัณฑ์ที่มีตราสัญลักษณ์นี้ ส่งเสริมการบริโภคที่มากขึ้น ต่อยอดไปถึงการการันตีเรื่องคุณภาพของผลิตภัณฑ์ เกิดการรับรู้มากขึ้น เมื่อใดที่ผู้บริโภคเห็นตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ก็จะนึกถึงรสชาติความเป็นไทยแท้ ความมีคุณภาพและมาตรฐานที่ใช้การผลิต อีกทั้งเมื่อ DITP ทำการประชาสัมพันธ์ก็ไม่ได้เจาะจงทำประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่จะทำในหลายประเทศ เป็นระดับ Global ทำให้สร้างการรับรู้ได้หมด ไม่ว่าจะเป็นผู้บริโภคชาวเอเชีย ชาวยุโรป ทุกคนก็รู้จักหมด ลำพังภาคเอกชนไปทำเองคนเดียวก็คงไม่ได้ สำหรับผู้ประกอบการที่มีการส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูป หรืออาหารแช่แข็ง ที่คิดว่ามีคุณสมบัติตรงกับเงื่อนไขโครงการ ก็น่าเข้ามาขอรับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT หากผ่านเกณฑ์ก็เชื่อว่าจะได้รับประโยชน์มากยิ่งขึ้น”


                  นางสาวพราว วัชราภัย​ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริษัท มอนตี้แอนด์ ท็อทโก้ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารไทยสำเร็จรูปภายใต้แบรนด์ "ไทยช้อยส์" (THAI CHOICE) ซึ่งปัจจุบันส่งออกไปกว่า 64 ประเทศทั่วโลก กล่าวว่า บริษัททำการส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปมาแล้วกว่า 30 ปี โดยมีตลาดหลักอยู่ในโซนยุโรป อาทิ ฟินแลนด์ เยอรมนี และยูเครน เป็นต้น ส่วนตลาดรองลงมาจะเป็นโซนตลาดตะวันออกกลางอย่างดูไบ การ์ตา และเยเมน


                  “ไทยช้อยส์จะส่งผลิตภัณฑ์เข้าร่วมขอรับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ทุกปี ปีละ 5-8 รายการ ขณะนี้มีผลิตภัณฑ์ที่รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT แล้ว 20 รายการ อาทิ น้ำยำส้มตำสำเร็จรูป น้ำพริกเผา ซอสผัดพร้อมปรุง น้ำแกงพะแนงพร้อมปรุง และน้ำแกงมัสมั่นพร้อมปรุง เป็นต้น โดยเริ่มขอรับมาตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งตราสัญลักษณ์นี้ช่วยแบรนด์ได้มากในด้านของภาพลักษณ์ ความน่าเชื่อถือ เพราะเป็นแบรนด์ที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ มีการการันตีเรื่องรสชาติ ซึ่งโดยสไตล์บรรจุภัณฑ์ของแบรนด์นั้นก็จะมีความโดดเด่นอยู่แล้ว เพราะเน้นการสื่อสารถึงความเป็นไทย อย่างลายไทย คนหาบอาหารไทย แม้แต่เวลาที่ไปออกบูทประชาสัมพันธ์ในกิจกรรมใดก็จะแต่งตัวด้วยชุดไทย ทั้งหมดนี้จึงช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกัน




                  สำหรับตลาดของเมืองใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกาหรือฝรั่งเศส ค่อนข้างจะมีการแข่งขันสูง เพราะมีแบรนด์ไทยเป็นจำนวนมาก จึงเริ่มมองหาตลาดใหม่ที่บางประเทศอาจจะยังไม่ใช่ลูกค้าในตอนนี้ แต่ก็เป็นประเทศที่มีศักยภาพที่อาจจะเป็นลูกค้าในอนาคต อย่างเอธิโอเปีย หรืออิหร่าน โดยเดินทางไปกับ DITP เมื่อมีการจัดกิจกรรม เพราะประเทศเหล่านี้หากแบรนด์จะเข้าไปเปิดตลาดเองก็คงจะเป็นเรื่องยาก”


                  ด้าน​ นายณัฐพรรษ อรัญเชาวน์ชัย​ เจ้าของผลิตภัณฑ์น้ำจิ้มซีฟู้ดฟรีซดราย แบรนด์ “แซ่บจี๊ด” (Zabjeed) ผู้เริ่มต้นจากธุรกิจจำหน่ายกุ้งแช่น้ำปลาและปูไข่ดอง กล่าวว่า น้ำจิ้มซีฟู้ดฟรีซดรายเกิดขึ้นในช่วงที่จำหน่ายอาหาร เพราะมีกลุ่มลูกค้าที่ให้ความสนใจ     บ้างก็ขอสั่งน้ำจิ้มซีฟู้ดเพิ่มต่างหาก จึงเริ่มใช้เวลาในการพัฒนาสูตรและน้ำจิ้มเพื่อให้ได้รสชาติถูกปาก โดยไม่ใส่สารกันบูดและผงชูรส ผลิตออกมาเป็นรูปแบบซองใช้ได้ครั้งเดียว เหมาะกับปริมาณการทาน 1 มื้อ หรือสองท่าน โดยกลุ่มเป้าหมายแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ  : นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปต่างประเทศประมาณ 5-10 วัน และกลุ่มนักเรียน นักศึกษาที่ต้องไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศเป็นระยะเวลานาน ซึ่งการหาวัตถุดิบต่างๆ เพื่อมาทำน้ำจิ้มซีฟู้ดค่อนข้างยากลำบาก บางที่พักอาศัยก็ไม่อนุญาตให้ประกอบอาหาร ผลิตภัณฑ์แซ่บจี๊ดจึงตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายนี้




                  “ตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่ยังคงเป็นคนไทยที่เดินทางไปต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นออสเตรเลีย อังกฤษ ยุโรป หรือ สหรัฐอเมริกา รวมถึงชาวต่างชาติที่เข้าใจในรสชาติอาหารไทยจริงๆ โดยเริ่มสมัครขอรับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ตั้งแต่ปี 2561 จากการที่ไปร่วมงาน THAIFEX แล้วพบ Showcase จัดแสดงผลิตภัณฑ์ที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT  จึงรู้สึกว่าน้ำจิ้มซีฟู้ดของไทยเป็นของซึ่งขึ้นชื่อมาแต่ไหนแต่ไร ไม่ต่างจากต้มยำกุ้ง ทำไมไม่ลองนำเอกลักษณ์ของน้ำจิ้มที่ขึ้นชื่อนี้ให้คนทั่วโลกได้รับรู้ว่าไทยไม่ได้มีดีแค่อาหารอย่างเดียว แต่น้ำจิ้มก็ยังเด็ดมาก แสดงได้ถึงความเป็นไทย ทานกับอะไรก็อร่อย จึงตัดสินใจขอรับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT แต่เมื่อมาพบกับสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ยังไม่ได้ไปเปิดตลาดในต่างประเทศ แต่หลังจากนี้คาดว่าโปรแกรมต่างๆ ก็น่าจะดำเนินไปตามแผนงานได้มากขึ้น ควบคู่ไปกับการรุกตลาดอีคอมเมิร์ซของต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น amazon.com หรือ ebay.com


                  ตราสัญลักษณ์ Thai SELECT นั้นช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ได้มากขึ้น ได้รับการรับรองเรื่องความเป็นไทย ช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับตัวผลิตภัณฑ์ว่าได้รับการันตีจากหน่วยงานภาครัฐ เมื่อผู้บริโภคได้ค้นหาข้อมูลก็จะพบว่ามีผลิตภัณฑ์มากมายที่ได้รับการรับรองคุณภาพ มีความเป็นไทย รสชาติโดดเด่น ก็เพิ่มความน่าลองซื้อ สำหรับผู้ประกอบการที่เข้ามาขอรับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT นั้น ที่สำคัญคือจะได้รับประสบการณ์ เพราะจะมีการเสนอ แนะนำ ติชมจากคณะกรรมการหรือหน่วยงาน ซึ่งให้ความรู้และคำแนะนำในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ช่วยต่อยอดได้ในอนาคต สุดท้ายคืออยากเชิญชวนให้ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปไทยได้ร่วมกันสร้างชื่อให้กับประเทศไทยเพื่อให้ชาวต่างชาติได้รับรู้ว่าประเทศไทยไม่ได้มีดีแค่อาหารบางชนิด แต่ยังมีของดีอีกหลายอย่างที่ควรจะได้ลิ้มลอง

                  สำหรับผู้สนใจสามารถติดตามการประกาศรับสมัครขอรับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ผ่านทางเว็บไซต์กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ หรือ​ www.ditp.go.thwww.thaiselect.com และ www.facebook.com/thaiselectditp