“มาร์เกซ” คว้าแชมป์ 2 สนามติด “โปล” ปลดล็อกโพเดี้ยมแรกกับฮอนด้าที่มิซาโน
มาร์ค มาร์เกซ ยอดนักบิดสแปนิชจาก เรปโซล ฮอนด้า ร้อนแรงต่อเนื่องผงาดคว้าชัยชนะในศึก โมโตจีพี สนาม 16 เอมิเลีย-โรมันญ่า กรังด์ปรีซ์ อย่างยิ่งใหญ่ พร้อมควงทีมเมท โปล เอสปาร์กาโร ปลดล็อกขึ้นโพเดี้ยมแบบวันทู หลังจบเรซสุดพลิกผันที่ มิซาโน ประเทศอิตาลี เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเกมรอบชิงชนะเลิศของ โมโตจีพี สนาม 16 ดวลความเร็วเมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา ภายใต้สภาพแทร็กปกติหลังจากที่นักบิดทุกคนต้องเจอฝนมาตลอดทั้งสุดสัปดาห์ โดยเรซนี้ดวลกันทั้งสิ้น 27 รอบสนาม ซึ่ง โปล เอสปาร์กาโร นักบิดสแปนิชหมายเลข 44 จาก เรปโซล ฮอนด้า ได้เริ่มเกมจากกริดที่ 4 ขณะที่ทีมเมทอย่าง มาร์ค มาร์เกซ แชมป์โลก 8 สมัย เจ้าของหมายเลข 93 ได้ออกสตาร์ทจากกริดที่ 7ผลในเรซนี้ปรากฏว่า มาร์ค มาร์เกซ สตาร์ทได้ยอดเยี่ยมทะยานขึ้นไปรั้งท็อปทรีได้ตั้งแต่เริ่มเกม ก่อนจะไล่บดขึ้นมาเป็นหัวแถวช่วง 5 รอบสุดท้าย และบิดเข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 41 นาที 52.830 วินาที คว้าชัยชนะ 2 สนามติดต่อกันอย่างยิ่งใหญ่ ตามด้วย เอสปาร์กาโร ในอันดับ 2 ตามหลัง 4.859 วินาที ปลดล็อกขึ้นโพเดี้ยมครั้งแรกกับ ฮอนด้า ได้สำเร็จ ด้าน ทาคาอากิ นาคากามิ นักบิดญี่ปุ่นหมายเลข 30 จาก แอลซีอาร์ ฮอนด้า จบเรซอันดับ 15 ขณะที่ทีมเมทอย่าง อเล็กซ์ มาร์เกซ หมายเลข 73 ไม่จบการแข่งขันหลังผ่าน 16 สนาม มาร์ค มาร์เกซ ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 6 บนตารางแชมเปี้ยนชิพ มีทั้งสิ้น 142 คะแนน ตามด้วย เอสปาร์กาโร ในอันดับ 12 มี 90 คะแนน, นาคากามิ อันดับ 15 มี 71 คะแนน และ อเล็กซ์ มาร์เกซ อันดับ 16 มี 54 คะแนนด้าน “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดดาวรุ่งชาวไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” ได้ออกสตาร์ทกริดที่ 10 โดยสามารถพารถแข่งหมายเลข 35 จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ทะยานขึ้นไปถึงท็อปโฟร์แต่กลับโดน เรมี การ์ดเนอร์ ชนล้มไปดื้อๆ ส่งผลให้ไร้แต้มอย่างน่าเสียดายสำหรับการแข่งขัน โมโตจีพี 2021 สนามถัดไปจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 5-7 พฤศจิกายนนี้ ที่ อัลการ์ฟ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศโปรตุเกส ในรายการ ปอร์ติเมา กรังด์ปรีซ์ แฟนความเร็วสามารถติดตามข่าวสารของนักบิดฮอนด้าได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : www.facebook.com/HondaRacingTeamTH#WhatStopsYou #มุ่งไปอย่าให้อะไรมาหยุด #MotoGP #MotorSport #SC35 #Moto2 #RaceToTheDream #HondaRacingThailand #IdemitsuHondaTeamAsia