happy on August 12, 2021, 08:23:32 PM
สบส.เปิดสถิติผู้ออกกำลังกายช่วงโควิด 19

               กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เปิดผลสำรวจการออกกำลังกายช่วงโควิด 19 ซึ่งวิถีใหม่​ที่ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เข้ากับสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 พบว่า ประชาชนมีทัศนคติ ไม่ถูกต้องสูงสุดเกี่ยวกับการออกกำลังกาย คือ เรื่องไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายเมื่อเหนื่อยจากการ ทำงานแล้ว และมีความคิดเห็นว่า การออกกำลังกายหรือไม่ออกกำลังกาย ก็ส่งผลต่อสุขภาพไม่ต่างกัน


               นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์  อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เปิดเผยว่า​ การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตในหลากหลายมิติ ตั้งแต่การทำงาน การเรียน การรักษาสุขภาพ ประชาชนจำเป็นต้องกักตัวอยู่บ้าน ดังนั้น การดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ จึงเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง ในสถานการณ์ที่ยังต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด 19 วิถีชีวิตของประชาชนเมื่อต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน ทำให้มีการออกกำลังกาย หรือกิจกรรมทางกายน้อยลง แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะมีความรู้ความเข้าใจว่าการออกกำลังกายจะช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรง สร้างภูมิต้านทานโรคได้

               นพ.ธเรศ กล่าวว่า​ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ได้ดำเนินการเฝ้าระวังพฤติกรรมสุขภาพ โดยการสำรวจความคิดเห็นผ่านระบบออนไลน์ ในกลุ่มวัยทำงานอายุระหว่าง 15 - 59 ปี เรื่อง พฤติกรรม การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ดำเนินการครอบคลุมพื้นที่ 13  เขตสุขภาพ และเครือข่ายอาสาสมัครสาธารณสุข 76 จังหวัดทั่วประเทศ ระหว่างเดือนเมษายน - พฤษภาคม 2564 ผลการสำรวจ พบว่า ประชาชนวัยทำงานส่วนใหญ่มีทัศนคติที่ไม่ถูกต้องต่อการออกกำลังกายสูงสุด คือเรื่อง  ไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายเมื่อเหนื่อยจากการทำงานแล้ว ตอบว่าเห็นด้วยเฉลี่ย 29.3 % รองลงมาคือ การออกกำลังกายหรือไม่ออกกำลังกายก็ส่งผลต่อสุขภาพไม่ต่างกัน  ตอบว่าเห็นด้วย 24.9 % ในด้านความรู้ความเข้าใจพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีความรู้ความเข้าใจ ในระดับดีมาก มีเพียง 11.6 % เท่านั้น เรื่องที่มีความรู้ความเข้าใจ ไม่ถูกต้องสูงสุด คือ เรื่องเวลาที่เหมาะสมในการออกกำลังกายอยู่ระหว่าง 20 - 60 นาที ต่อครั้ง ตอบว่าไม่ใช่ เฉลี่ย 11.6 % รองลงมาคือเรื่อง การออกกำลังกายช่วยลดโอกาสป่วย  ด้วยโรคไม่เรื้อรัง ตอบว่าไม่ใช่ 8.1 %

               นพ.ธเรศ กล่าวต่อว่า​ ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 นอกจากการป้องกันตนเอง โดยสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า การล้างมือให้สะอาด หรือการปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) และฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ทุกคนจำเป็นต้องดูแลสุขภาพเชิงรุก เพราะมีความจำเป็นในสภาวะนี้ โดยการทำให้ร่างกายของตนเองแข็งแรง และมีภูมิต้านทานที่ดีอยู่เสมอ ด้วยการออกกำลังกาย เป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ การออกกำลังกายจะช่วยเสริมสร้างความยืดหยุ่น และความแข็งแรงของร่างกาย เพิ่มศักยภาพในการทำงาน ลดความเครียด นอกจากนี้การออกกำลังกายจะลดโอกาสการป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ เป็นต้น


               ด้านนางสาวมะลิ ไพฑูรย์เนรมิต ผู้อำนวยการกองสุขศึกษา​ กล่าวว่า การออกกำลังกายจะทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง วัยทำงานควรเลือกการออกกำลังกายที่เหมาะสม ตามบริบทของผู้ออกกำลังกาย เช่น อุปกรณ์ สถานที่ เมื่อต้องกักตัวอยู่บ้าน หากไม่มีอุปกรณ์หรือพื้นที่ อาจเลือกชนิดการออกกำลังกายที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์มาก เช่น การเล่นฮูลาฮูป  โยคะ เต้นแอโรบิก เดินเร็ว หรือวิ่งเหยาะรอบบริเวณบ้าน โดยใช้เวลาออกกำลังกายให้ได้ 3 - 5 วันต่อสัปดาห์ ต่อเนื่องนานครั้งละ 20 - 60 นาที จะช่วยเพิ่มความแข็งแรง ของระบบหัวใจ ปอด และกล้ามเนื้อ หรือการมีกิจกรรมทางกาย เช่น ทำงานบ้าน การแกว่งแขน หรือการเดิน ก็ถือว่ามีผลดีต่อสุขภาพ เพราะช่วยลดโรค และถ้าทำต่อเนื่องยังสามารถช่วยเผาผลาญพลังงานส่วนเกินในร่างกายได้อีกด้วย นอกจากนี้ควรเลือกรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ มีประโยชน์ ถูกหลักโภชนาการ กินผักผลไม้ให้มาก ลดอาหารหวาน มัน เค็ม วัยทำงานการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอมีความสำคัญมาก ร่างกายจะเกิดการซ่อมแซมตัวเอง ควรนอนหลับให้ได้วันละ 7 – 9 ชั่วโมง

               ทั้งนี้ประชาชนสามารถติดต่อผ่านช่องทางการติดต่อของกองสุขศึกษา ผ่านช่องทาง Facebook และเว็บไซต์กองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ htpp://http://www.hed.go.th/